วันเสาร์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552

ยุทธศาสตร์"พัฒนาสังคม" ถ้าขาดหายยุทธศาสตร์ส่วนนี้ไป ก็เป็นการยากที่สังคมจะน่าอยู่ได้



Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
 
 

วันที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11431 มติชนรายวัน


ยุทธศาสตร์"พัฒนาสังคม"


คอลัมน์ เกาะติดงบ"53



ห้วงยามที่บ้านเมืองเผชิญภาวะวิกฤตเศรษฐกิจตกต่ำจนยากจะแก้ไข แต่ขณะเดียวกันปัญหาการเมืองและปัญหาสังคมก็ยังตามรุมเร้า โดยมียาเสพติดแพร่ระบาด

ล่าสุด มีมากเผาทำลายไปถึง 6,121 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 9,369 ล้านบาท ถือว่ามีมูลค่าสูงกว่างบประมาณบางหน่วยงานเสียอีก

ประเด็นปัญหาเหล่านี้ทำให้รัฐบาลภายใต้การนำของ "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" ปวดเศียรเวียนเกล้า เพราะยิ่งตียาเสพติดยิ่งแตกขยาย นี่ยังไม่นับถึงปัญหาสังคมด้านอื่นๆ ที่นับวันปัญหาสังคมยิ่งทบทวีและซับซ้อนมากขึ้น

ทั้งนี้ รัฐบาลได้ตั้งงบประมาณสำหรับยุทธศาสตร์การพัฒนาสังคมและคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นแผนงานสำหรับเสริมสร้างสังคมไว้ทั้งสิ้น 5.06 แสนล้านบาท

งบฯก้อนนี้กระจายไปตามกระทรวงและหน่วยงานต่างๆ ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อให้คนไทยมีคุณภาพชีวิตที่ดีแบ่งเป็น 11 แผนงาน

จึงขอส่องสปอตไลท์ฉายไปที่แผนงานที่สำคัญๆ ในการมุ่งสร้างสังคมที่ดีในยุทธศาสตร์นี้

โดยยุทธศาสตร์นี้ให้ความสำคัญกับการศึกษามากที่สุด ซึ่งระบุงบฯไว้ในแผนงานขยายโอกาสและพัฒนาการศึกษาไว้ในกระทรวงศึกษาธิการถึง 2.80 แสนล้านบาท กระจายไปตามมหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาต่างๆ เพื่อให้การศึกษาเข้าถึงคนไทยทุกกลุ่มทุกวัยให้มีโอกาสเข้าถึงบริการการศึกษาที่มีคุณภาพตามมาตรฐานอย่างทั่วถึงเป็นธรรมและต่อเนื่อง

ส่วนแผนงานพัฒนาและยกระดับมาตรฐานแรงงานตั้งงบฯไว้ 2.1 หมื่นล้านบาท มุ่งเน้นให้ประชาชกรวัยทำงานได้รับโอกาสการมีงานทำ มีระบบการจ้างงานที่เป็นธรรม งบฯทั้งหมดอยู่ที่กระทรวงแรงงาน โดยสำนักปลัดกระทรวงแรงงานมีงบฯ 1.096 พันล้านบาท ซึ่งที่มีมากสุดในแผนงานกระจุกอยู่ที่สำนักงานประกันสังคมที่มีมากถึง 1.8 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในห้วงยามที่แรงงานตกงานกันระนาว งบฯของกรมการจัดหางานมีเพียง 208 ล้านบาท

สำหรับแผนงานพัฒนาด้านสาธารณสุขที่เป็นแผนงานนั้นมีงบฯ 1.72 แสนล้านบาท ซึ่งงบฯส่วนใหญ่ถูกระบุไว้ในแผนงานของกระทรวงศึกษาธิการถึง 7.226 พันล้านบาท และกระทรวงสาธารณสุข 7.1 หมื่นล้านบาท

ส่วนแผนงานส่งเสริมและพัฒนาศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรมจำนวน 8.217 พันล้านบาท จัดแบ่งให้กระทรวงวัฒนธรรม 4.259 พันล้านบาท ส่วนงบฯที่เหลือจัดแบ่งไปที่สถาบันการศึกษา โดยมีวัตถุประสงค์มุ่งเน้นให้สถาบันเหล่านั้นปลูกฝังคุณธรรมอันดีต่อเยาวชนและประชาชน ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าในห้วงที่บ้านเมืองคุณธรรมจริยธรรมเสื่อมถอยกลับไม่มีโครงการที่มุ่งเน้นให้ผู้คนมีคุณธรรมจริยธรรมที่ดีเลย

สำหรับแผนงานสวัสดิการสังคมและความมั่นคงของมนุษย์นั้นรัฐบาลตั้งงบฯไว้ที่ 7.682 พันล้านบาท

โดยงบฯทั้งหมดกระจุกอยู่ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่น่าสนใจมีงบฯสำหรับส่งเสริมและพิทักษ์เด็กเยาวชน ผู้ด้อยโอกาส คนพิการและผู้สูงอายุเพียง 150 ล้านบาทเท่านั้น

แต่งบฯที่น่าสนใจในยุทธศาสตร์นี้ คือ งบฯสำหรับแผนงานป้องกันแก้ไขปัญหายาเสพติดโดยตั้งงบฯไว้ 4.547 พันล้านบาท ซึ่งแผนงานนี้ระบุไว้ชัดเจนว่า ต้องการสร้างภูมิคุ้มกันยาเสพติด ป้องกันมิให้กลุ่มเสี่ยงเป็นเหยื่อยาเสพติด ด้วยการป้องกัน เฝ้าระวังและแก้ไขปัญหายาเสพติด ตลอดจนการบำบัดรักษาฟื้นฟูผู้ติดยาเสพติดให้สามารถดำเนินชีวิตได้ตามปกติ

โดยจัดงบฯตามยุทธศาสตร์นี้ไว้ในกระทรวงกลาโหม 281 ล้านบาท สำนักนายกรัฐมนตรี 198 ล้านบาท กระทรวงมหาดไทย 6 ล้านบาท กระทรวงยุติธรรม 2.727 พันล้านบาท สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 599 ล้านบาท

งบฯตามยุทธศาสตร์นี้แม้จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการป้องปรามและการให้การศึกษาเป็นหลัก แต่ถือว่ายุทธศาสตร์ส่วนใหญ่ในหน่วยงานต่างๆ ยังขาดแผนงานการสร้างสังคมให้น่าอยู่ ซึ่งต้องเริ่มต้นจากสถาบัน "ครอบครัว" อันเป็นหน่วยเล็กที่สุดของสังคมให้เข้มแข็ง

ถ้าขาดหายยุทธศาสตร์ส่วนนี้ไป ก็เป็นการยากที่สังคมจะน่าอยู่ได้


หน้า 11
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pol02270652&sectionid=0133&day=2009-06-27


See all the ways you can stay connected to friends and family

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น