ข่าวหลินฮุ่ยกับลูกน้อยสามารถครองพื้นที่บางส่วนบนหน้าหนังสือพิมพ์รายวันหลายฉบับอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งข่าวผ่านจอทีวีในแต่ละวันอีกด้วย
หมีแพนด้าน้อยลูกของหลินฮุ่ยกับช่วงช่วงนั้น จะไม่มีใครรู้จักเห็นจะไม่มี (ถ้าติดตามข่าวผ่านสื่อต่างๆ) พูดได้ว่ารู้จักมากกว่ารัฐมนตรีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีผลงานอะไรบ้าง
คุณสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีคนหนึ่งจะขึ้นไปเยี่ยมสองแม่ลูกหมีแพนด้า พร้อมทั้งนำสูติบัตรไปมอบให้หมีแพนด้า คนก็จะรู้จักผลงานคุณสุวิทย์เพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่งทันที
เรียกว่าโดยสารถูกจังหวะว่างั้นเถอะ
เวลานี้อะไรๆ ก็หมีแพนด้า สินค้าเกี่ยวเนื่องด้วยรูปหมีแพนด้าที่ชายแดน ยอดขายพุ่งจนสินค้านั้นขาดตลาด
วงการหวยซึ่งไม่ควรเกี่ยวกับหมี เพราะจะเป็นภาษาไทยที่ล่อแหลมเมื่อภาษาของเรามีคำผวนเป็นลักษณะหนึ่งของภาษาไทย ก็ยังเกิดหวยหมีเข้าจนได้ ซึ่งวิธีการเพื่อความปลอดภัยควรเรียกว่าหวยแพนด้าจะเหมาะกว่า คือ งวดที่ผ่านมานี้ 097 ตรงกับจำนวนวันที่หลินฮุ่ยตั้งท้อง
พูดถึงเรื่องการตั้งท้องของหลินฮุ่ย ผู้เขียนเกิดความประหลาดใจ เพราะเข้าใจว่าหมีแพนด้าน่าจะท้องนานกว่า 97 วัน และยิ่งคำนึงถึงวันผสมเทียมก็ยิ่งไม่น่าจะตกลูกตอนนี้
หรือว่าหลินฮุ่ยเธอท้องตามธรรมชาติก่อนผสมเทียม มิฉะนั้นคงมีใครแอบนำไผ่อาหารประจำการไปแช่น้ำยาเบนโล แล้วจึงค่อยเอาไปให้เธอกิน
สมมุติฐานว่าหมีแพนด้าน้อยเป็นผลิตผลร่วมกันของหลินฮุ่ยกับช่วงช่วง ดังนั้น ช่วงช่วงที่ถูกจับแยกจึงพลอยมีชื่อติดอันดับไปด้วย เพราะหมีแพนด้าน้อยตัวนี้เป็นตัวแรกของปีนี้ ทั้งก่อนจะเกิดผลิตผลออกมา การผสมเทียมครั้งสุดท้ายก็เป็นการผสมนอกฤดูกาล
องค์ความรู้เกี่ยวกับหมีแพนด้าของสัตวแพทย์และนักวิจัยชาวไทยที่เกี่ยวข้องจึงควรแก่การซูฮก ใช่แต่เท่านั้น ช่วงช่วงเห็นจะตัวเบาอีกครั้ง เพราะเขาจะจับพี่แกรีดน้ำเชื้อใส่หลอดส่งไปจีนเพื่อช่วยสาวๆ หมีแพนด้าจีนทำพันธุ์
ใครที่ประกาศสัจพจน์ว่า "นมเมียสำหรับผัว นมวัวสำหรับลูก" นั้น คำประกาศนี้ใช้ไม่ได้กับครอบครัวหลินฮุ่ย-ช่วงช่วง เพราะหลินฮุ่ยเชื่อเรื่องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ย่อมทำให้เด็กฉลาดแข็งแรง หลินฮุ่ยจึงให้นมแก่ลูกเอง ขาดไปเพียงลูกยังกินนมไม่ครบทุกเต้า
ไม่เพียงให้นมตามเวลา หลินฮุ่ยยังอุ้มแพนด้าน้อยตลอดเวลา เกือบจะทนไม่ไหวก็ยื่นแขนยื่นขาออกมานอกกรง วานคุณพี่ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูช่วยนวดเฟ้น
ถ้าตกงานจากสัตวแพทย์น่าจะมีโอกาสไปเปิดสำนักนวดแผนไทยคงพอไหว
วันที่ลงมือเขียนต้นฉบับนี้ นังหนูหมีแพนด้าน้อยลุกขึ้นยืน 4 ขาได้แล้ว บอกแล้วว่ารู้จากข่าวประจำวัน ขาดไปแต่ไม่ยักกะรายงานด้วยว่าการขับถ่ายเป็นอย่างไร
เอาล่ะ หมีแพนด้าเป็นข่าวได้ เป็นภาพสวยๆ และน้ำจิตน้ำใจคนไทยก็เมตตาเอ็นดู ผู้เขียนอดคิดถึงช้างบ้างไม่ได้ ช้างไทยเป็นสัตว์ประจำชาติไทย เราๆ ท่านๆ ที่เป็นไทยด้วยกันคิดถึงช้างอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวน่าเศร้าอย่างพังกำไลประสบอุบัติเหตุ โชคยังดีที่การรักษาได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ส่วนความบาดเจ็บของพังกำไลก็สาหัสนัก สำหรับข่าวเกี่ยวกับช้างอีกเชือก คือพังน้ำฝนลูกช้างที่ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เธอยังอยู่ในวัยที่ต้องกินนม หากเคราะห์ร้ายที่แม่ไม่ยอมให้นม ไม่โชคดีอย่างลูกของหลินฮุ่ย นอกจากพังน้ำฝนกินนมแม่ไม่ได้แล้ว ยังจะถูกแม่ไล่กระทืบอีก เขาต้องจับแยก และเลี้ยงพังน้ำฝนด้วยน้ำข้าวซึ่งทำให้ผอมผิดรูปช้าง ตามที่เชื่อว่าใครจะเขียนรูปช้างหรือรูปฤๅษี ต้องทำตามคำพังเพยว่า "คชาผี ฤๅษีผอม จึงงาม"
หมีแพนด้ามาอยู่กับเรา 6 ปีเศษ คณะสัตวแพทย์และนักวิจัยชาวไทย ได้มีประสบการณ์และองค์ความรู้เรื่องหมีแพนด้าอย่างน่าทึ่ง ขณะที่ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทยในประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีความสัมพันธ์กับสังคมไทยในบริบทต่างๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นต้น องค์ความรู้เรื่องช้างของคนไทยย่อมมีมาก และยังมีช้างอยู่ในแผ่นดิน ไม่ต้องขอหยิบขอยืมช้างใครจากประเทศไหนมาประคบประหงม
ส่วนวันข้างหน้านั้นไม่แน่ เมื่อช้างสิ้นจากแผ่นดินไทย ดังนั้น ความรู้ที่จะรักษาช้างไว้ได้ต้องเป็นความรู้ที่คู่คุณธรรม อีกทั้งพึงตระหนักว่าช้างไทยในทุกวันนี้อาภัพนักหนาแล้ว ไม่ต้องปลูกไผ่ไว้ให้ช้างกิน หรือไม่ต้องเลี้ยงช้างในห้องแอร์ เพียงแต่ป้องกันมิให้คนไปบุกรุกทำลายป่าอันเป็นที่อยู่ของช้างจนปราศจากแหล่งอาหารตามธรรมชาติ ต้องออกจากป่ามาเสี่ยงต่อการบุกรุกแหล่งเกษตรกรรมของชาวบ้าน มากินพืชผักที่ปนเปื้อนสารพิษ ส่วนช้างที่เป็นช้างบ้านก็ดูแลรักษาเขา ไม่ถูกทำให้เป็นช้างขอทานเร่ร่อนในเมือง เสี่ยงอุบัติเหตุ ฯลฯ
ความจริงของช้างในโลกมีแค่ 2 ตระกูลใหญ่ๆ คือ ช้างเอเชียกับช้างแอฟริกา สำหรับช้างไทยอยู่ในตระกูลช้างเอเชีย ช้างไทยชอบอากาศเย็น (แต่ไม่ถึงอยู่ห้องแอร์) จึงลงน้ำบ่อย ลอยคอในน้ำและว่ายน้ำได้ดี ที่อยู่ของช้างจึงมิใช่ข้างถนน ช้างนอนหลับคืนละ 3-4 ชั่วโมง (ระหว่างเวลา 23.00- 03.00 น.) กลางวันจะไม่นอนหลับยกเว้นป่วยไข้
คนไทยจะมีคำเรียกจำแนกเพศ ลักษณะช้างและลักษณะนาม ตามประเภท ได้แก่ เราเรียกช้างตัวผู้ว่าช้างพลาย ซึ่งมีงา ถ้าช้างตัวผู้ไม่มีงาจะเรียกว่าช้างสีดอ และเรียกช้างตัวเมียว่าช้างพัง ช้างตัวเมียตามปกติไม่มีงา อาจมีบ้างที่มีงาสั้นๆ จะเรียกว่าขนาย ช้างทั่วไปรูปร่างสูงใหญ่ หากยังมีช้างไทยชนิดหนึ่งสูงเพียง 2 เมตร เป็นช้างแคระซึ่งเรียกว่าช้างค่อม เคยมีแถวป่าเขาในจังหวัดสงขลา, พัทลุง ปัจจุบันสูญพันธุ์แล้ว
การที่ถือว่าช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทย น่าจะมาจากช้างมีคุณูปการต่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะการเป็นช้างศึก ซึ่งเราใช้ช้างในงานพระราชการสงคราม สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงทรงกระทำยุทธหัตถีกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ต่อมาสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงชนช้างกับพระเจ้าแปร ครั้นช้างสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสียทีแก่ข้าศึก พอดีกับสมเด็จพระศรีสุริโยทัยซึ่งปลอมพระองค์เป็นชาย ขับช้างเข้าไปช่วย ก็ถูกพม่าข้าศึกฟันสิ้นพระชนม์บนช้างนั้น
ยุทธหัตถีอันเลื่องลือยิ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย คือ การยุทธหัตถีครั้งสำคัญ พ.ศ.2135 คราวที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงช้างชื่อว่าเจ้าพระยาไชยานุภาพ ชนช้างกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่าที่ทรงช้างพลายพัทกอ กาลครั้งนั้นพระมหาอุปราชาถูกพระแสงของ้าวพระนเรศวรฟันจนขาดบนคอช้าง พระราชสงครามครั้งเดียวกันนี้ พระเอกาทศรถได้โดยเสด็จพระราชสงครามด้วย โดยทรงชนช้างกับมังจาจะโรพระพี่เลี้ยงของพระมหาอุปราชาซึ่งมีพลายพัดชะเนียงเป็นช้างศึก ผลการรบได้ถูกพระแสงง้าวพระเอกาทศรถฟันขาดบนคอช้างเช่นกัน
นอกจากไทยสมัยโบราณมีช้างเป็นพาหนะสำคัญทำศึกกับอริราชศัตรูดังกล่าวแล้ว ในยุครัตนโกสินทร์ แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ไทยรบกับญวนที่เขมร พ.ศ.2388 กาลครั้งนี้ เจ้าพระยาบดินทรเดชา แม่ทัพไทยไปตั้งรับที่เมืองอุดง ส่วนญวนใช้ทัพเรือเป็นขบวนใหญ่ถึงเมืองอุดง ท่านเจ้าพระยาบดินทรฯ ไม่มีกองเรือจะทำการยุทธนาวี จึงวางกลศึกปล่อยให้ญวนยกพลขึ้นบก จากนั้นท่านจึงบัญชาให้ใช้ช้างศึกไล่แทงข้าศึ โดยวางกำลังทหารราบตามตี จนข้าศึกต้องถอยทัพเรือคืนประเทศตน
เราจะเห็นว่าช้างมีความสำคัญต่อการรักษาเอกราชของแผ่นดิน และช้างยังมีความหมายทางวัฒนธรรมอีกหลายประการ พระมหากษัตริย์พระองค์ใดขึ้นครองราชย์แล้วมีช้างเผือกเกิดขึ้นใต้ร่มพระบารมี ย่อมถือว่าทรงมีบุญญาธิการมาก ช้างเผือกที่รับการขึ้นระวางเป็นช้างต้นของหลวง จะมีอิสริยศ-เทียบชั้นเจ้าฟ้า ส่วนช้างสำคัญเชือกอื่นๆ อาจเป็นเจ้าพระยา พระยา หรือพระก็แล้วแต่ จึงมีคำเปรียบเปรยถึง "ยศช้าง ขุนนางพระ"
อย่างไรก็ดี การที่ช้างมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยมาแต่โบราณกาล เมื่อแรกจะมีธงชาตินั้นช้างจึงเป็นธงชาติรูปช้างบนผืนผ้าสีแดง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดฯ ให้สร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ก็มีช้างเผือกในดวงตราเป็นสกุลเครื่องราชสำคัญ "ที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก" ในทางภาษาและวรรณคดี การที่บัญญัติคำเรียกช้างลักษณะนามของช้าง ตลอดจนมีวรรณคดีเฉพาะเกี่ยวกับช้างโดยตรง คือ คำฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง ที่มีอยู่หลายฉบับ ดังมีฉบับเก่าแก่สุดเป็นฉบับขุนเทพกวี ส่วนฉบับล่าสุดเป็นพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ความสำคัญของช้างมีเป็นอเนกประการ ยุคสมัยที่เปลี่ยนอาจทำให้ความสำคัญลดลง แต่คุณค่าทางใจที่ควรรักษาไว้ด้วยความเมตตาต่อช้างไม่ควรจะลดลง.
หมีแพนด้าน้อยลูกของหลินฮุ่ยกับช่วงช่วงนั้น จะไม่มีใครรู้จักเห็นจะไม่มี (ถ้าติดตามข่าวผ่านสื่อต่างๆ) พูดได้ว่ารู้จักมากกว่ารัฐมนตรีอีกหลายคนที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร มีผลงานอะไรบ้าง
คุณสุวิทย์ คุณกิตติ รัฐมนตรีคนหนึ่งจะขึ้นไปเยี่ยมสองแม่ลูกหมีแพนด้า พร้อมทั้งนำสูติบัตรไปมอบให้หมีแพนด้า คนก็จะรู้จักผลงานคุณสุวิทย์เพิ่มขึ้นอีกประการหนึ่งทันที
เรียกว่าโดยสารถูกจังหวะว่างั้นเถอะ
เวลานี้อะไรๆ ก็หมีแพนด้า สินค้าเกี่ยวเนื่องด้วยรูปหมีแพนด้าที่ชายแดน ยอดขายพุ่งจนสินค้านั้นขาดตลาด
วงการหวยซึ่งไม่ควรเกี่ยวกับหมี เพราะจะเป็นภาษาไทยที่ล่อแหลมเมื่อภาษาของเรามีคำผวนเป็นลักษณะหนึ่งของภาษาไทย ก็ยังเกิดหวยหมีเข้าจนได้ ซึ่งวิธีการเพื่อความปลอดภัยควรเรียกว่าหวยแพนด้าจะเหมาะกว่า คือ งวดที่ผ่านมานี้ 097 ตรงกับจำนวนวันที่หลินฮุ่ยตั้งท้อง
พูดถึงเรื่องการตั้งท้องของหลินฮุ่ย ผู้เขียนเกิดความประหลาดใจ เพราะเข้าใจว่าหมีแพนด้าน่าจะท้องนานกว่า 97 วัน และยิ่งคำนึงถึงวันผสมเทียมก็ยิ่งไม่น่าจะตกลูกตอนนี้
หรือว่าหลินฮุ่ยเธอท้องตามธรรมชาติก่อนผสมเทียม มิฉะนั้นคงมีใครแอบนำไผ่อาหารประจำการไปแช่น้ำยาเบนโล แล้วจึงค่อยเอาไปให้เธอกิน
สมมุติฐานว่าหมีแพนด้าน้อยเป็นผลิตผลร่วมกันของหลินฮุ่ยกับช่วงช่วง ดังนั้น ช่วงช่วงที่ถูกจับแยกจึงพลอยมีชื่อติดอันดับไปด้วย เพราะหมีแพนด้าน้อยตัวนี้เป็นตัวแรกของปีนี้ ทั้งก่อนจะเกิดผลิตผลออกมา การผสมเทียมครั้งสุดท้ายก็เป็นการผสมนอกฤดูกาล
องค์ความรู้เกี่ยวกับหมีแพนด้าของสัตวแพทย์และนักวิจัยชาวไทยที่เกี่ยวข้องจึงควรแก่การซูฮก ใช่แต่เท่านั้น ช่วงช่วงเห็นจะตัวเบาอีกครั้ง เพราะเขาจะจับพี่แกรีดน้ำเชื้อใส่หลอดส่งไปจีนเพื่อช่วยสาวๆ หมีแพนด้าจีนทำพันธุ์
ใครที่ประกาศสัจพจน์ว่า "นมเมียสำหรับผัว นมวัวสำหรับลูก" นั้น คำประกาศนี้ใช้ไม่ได้กับครอบครัวหลินฮุ่ย-ช่วงช่วง เพราะหลินฮุ่ยเชื่อเรื่องเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ย่อมทำให้เด็กฉลาดแข็งแรง หลินฮุ่ยจึงให้นมแก่ลูกเอง ขาดไปเพียงลูกยังกินนมไม่ครบทุกเต้า
ไม่เพียงให้นมตามเวลา หลินฮุ่ยยังอุ้มแพนด้าน้อยตลอดเวลา เกือบจะทนไม่ไหวก็ยื่นแขนยื่นขาออกมานอกกรง วานคุณพี่ที่เอาใจใส่เลี้ยงดูช่วยนวดเฟ้น
ถ้าตกงานจากสัตวแพทย์น่าจะมีโอกาสไปเปิดสำนักนวดแผนไทยคงพอไหว
วันที่ลงมือเขียนต้นฉบับนี้ นังหนูหมีแพนด้าน้อยลุกขึ้นยืน 4 ขาได้แล้ว บอกแล้วว่ารู้จากข่าวประจำวัน ขาดไปแต่ไม่ยักกะรายงานด้วยว่าการขับถ่ายเป็นอย่างไร
เอาล่ะ หมีแพนด้าเป็นข่าวได้ เป็นภาพสวยๆ และน้ำจิตน้ำใจคนไทยก็เมตตาเอ็นดู ผู้เขียนอดคิดถึงช้างบ้างไม่ได้ ช้างไทยเป็นสัตว์ประจำชาติไทย เราๆ ท่านๆ ที่เป็นไทยด้วยกันคิดถึงช้างอย่างไร โดยเฉพาะเมื่อมีข่าวน่าเศร้าอย่างพังกำไลประสบอุบัติเหตุ โชคยังดีที่การรักษาได้รับพระมหากรุณาธิคุณ ส่วนความบาดเจ็บของพังกำไลก็สาหัสนัก สำหรับข่าวเกี่ยวกับช้างอีกเชือก คือพังน้ำฝนลูกช้างที่ห้างฉัตร จังหวัดลำปาง เธอยังอยู่ในวัยที่ต้องกินนม หากเคราะห์ร้ายที่แม่ไม่ยอมให้นม ไม่โชคดีอย่างลูกของหลินฮุ่ย นอกจากพังน้ำฝนกินนมแม่ไม่ได้แล้ว ยังจะถูกแม่ไล่กระทืบอีก เขาต้องจับแยก และเลี้ยงพังน้ำฝนด้วยน้ำข้าวซึ่งทำให้ผอมผิดรูปช้าง ตามที่เชื่อว่าใครจะเขียนรูปช้างหรือรูปฤๅษี ต้องทำตามคำพังเพยว่า "คชาผี ฤๅษีผอม จึงงาม"
หมีแพนด้ามาอยู่กับเรา 6 ปีเศษ คณะสัตวแพทย์และนักวิจัยชาวไทย ได้มีประสบการณ์และองค์ความรู้เรื่องหมีแพนด้าอย่างน่าทึ่ง ขณะที่ช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทยในประวัติศาสตร์อันยาวนาน มีความสัมพันธ์กับสังคมไทยในบริบทต่างๆ ทั้งประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม เศรษฐกิจและการท่องเที่ยว เป็นต้น องค์ความรู้เรื่องช้างของคนไทยย่อมมีมาก และยังมีช้างอยู่ในแผ่นดิน ไม่ต้องขอหยิบขอยืมช้างใครจากประเทศไหนมาประคบประหงม
ส่วนวันข้างหน้านั้นไม่แน่ เมื่อช้างสิ้นจากแผ่นดินไทย ดังนั้น ความรู้ที่จะรักษาช้างไว้ได้ต้องเป็นความรู้ที่คู่คุณธรรม อีกทั้งพึงตระหนักว่าช้างไทยในทุกวันนี้อาภัพนักหนาแล้ว ไม่ต้องปลูกไผ่ไว้ให้ช้างกิน หรือไม่ต้องเลี้ยงช้างในห้องแอร์ เพียงแต่ป้องกันมิให้คนไปบุกรุกทำลายป่าอันเป็นที่อยู่ของช้างจนปราศจากแหล่งอาหารตามธรรมชาติ ต้องออกจากป่ามาเสี่ยงต่อการบุกรุกแหล่งเกษตรกรรมของชาวบ้าน มากินพืชผักที่ปนเปื้อนสารพิษ ส่วนช้างที่เป็นช้างบ้านก็ดูแลรักษาเขา ไม่ถูกทำให้เป็นช้างขอทานเร่ร่อนในเมือง เสี่ยงอุบัติเหตุ ฯลฯ
ความจริงของช้างในโลกมีแค่ 2 ตระกูลใหญ่ๆ คือ ช้างเอเชียกับช้างแอฟริกา สำหรับช้างไทยอยู่ในตระกูลช้างเอเชีย ช้างไทยชอบอากาศเย็น (แต่ไม่ถึงอยู่ห้องแอร์) จึงลงน้ำบ่อย ลอยคอในน้ำและว่ายน้ำได้ดี ที่อยู่ของช้างจึงมิใช่ข้างถนน ช้างนอนหลับคืนละ 3-4 ชั่วโมง (ระหว่างเวลา 23.00- 03.00 น.) กลางวันจะไม่นอนหลับยกเว้นป่วยไข้
คนไทยจะมีคำเรียกจำแนกเพศ ลักษณะช้างและลักษณะนาม ตามประเภท ได้แก่ เราเรียกช้างตัวผู้ว่าช้างพลาย ซึ่งมีงา ถ้าช้างตัวผู้ไม่มีงาจะเรียกว่าช้างสีดอ และเรียกช้างตัวเมียว่าช้างพัง ช้างตัวเมียตามปกติไม่มีงา อาจมีบ้างที่มีงาสั้นๆ จะเรียกว่าขนาย ช้างทั่วไปรูปร่างสูงใหญ่ หากยังมีช้างไทยชนิดหนึ่งสูงเพียง 2 เมตร เป็นช้างแคระซึ่งเรียกว่าช้างค่อม เคยมีแถวป่าเขาในจังหวัดสงขลา, พัทลุง ปัจจุบันสูญพันธุ์แล้ว
การที่ถือว่าช้างเป็นสัตว์ประจำชาติไทย น่าจะมาจากช้างมีคุณูปการต่อชาติบ้านเมือง โดยเฉพาะการเป็นช้างศึก ซึ่งเราใช้ช้างในงานพระราชการสงคราม สมัยสุโขทัย พ่อขุนรามคำแหงทรงกระทำยุทธหัตถีกับขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด ต่อมาสมัยกรุงศรีอยุธยา สมเด็จพระมหาจักรพรรดิทรงชนช้างกับพระเจ้าแปร ครั้นช้างสมเด็จพระมหาจักรพรรดิเสียทีแก่ข้าศึก พอดีกับสมเด็จพระศรีสุริโยทัยซึ่งปลอมพระองค์เป็นชาย ขับช้างเข้าไปช่วย ก็ถูกพม่าข้าศึกฟันสิ้นพระชนม์บนช้างนั้น
ยุทธหัตถีอันเลื่องลือยิ่งของประวัติศาสตร์ชาติไทย คือ การยุทธหัตถีครั้งสำคัญ พ.ศ.2135 คราวที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ทรงช้างชื่อว่าเจ้าพระยาไชยานุภาพ ชนช้างกับพระมหาอุปราชาแห่งพม่าที่ทรงช้างพลายพัทกอ กาลครั้งนั้นพระมหาอุปราชาถูกพระแสงของ้าวพระนเรศวรฟันจนขาดบนคอช้าง พระราชสงครามครั้งเดียวกันนี้ พระเอกาทศรถได้โดยเสด็จพระราชสงครามด้วย โดยทรงชนช้างกับมังจาจะโรพระพี่เลี้ยงของพระมหาอุปราชาซึ่งมีพลายพัดชะเนียงเป็นช้างศึก ผลการรบได้ถูกพระแสงง้าวพระเอกาทศรถฟันขาดบนคอช้างเช่นกัน
นอกจากไทยสมัยโบราณมีช้างเป็นพาหนะสำคัญทำศึกกับอริราชศัตรูดังกล่าวแล้ว ในยุครัตนโกสินทร์ แผ่นดินพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 ไทยรบกับญวนที่เขมร พ.ศ.2388 กาลครั้งนี้ เจ้าพระยาบดินทรเดชา แม่ทัพไทยไปตั้งรับที่เมืองอุดง ส่วนญวนใช้ทัพเรือเป็นขบวนใหญ่ถึงเมืองอุดง ท่านเจ้าพระยาบดินทรฯ ไม่มีกองเรือจะทำการยุทธนาวี จึงวางกลศึกปล่อยให้ญวนยกพลขึ้นบก จากนั้นท่านจึงบัญชาให้ใช้ช้างศึกไล่แทงข้าศึ โดยวางกำลังทหารราบตามตี จนข้าศึกต้องถอยทัพเรือคืนประเทศตน
เราจะเห็นว่าช้างมีความสำคัญต่อการรักษาเอกราชของแผ่นดิน และช้างยังมีความหมายทางวัฒนธรรมอีกหลายประการ พระมหากษัตริย์พระองค์ใดขึ้นครองราชย์แล้วมีช้างเผือกเกิดขึ้นใต้ร่มพระบารมี ย่อมถือว่าทรงมีบุญญาธิการมาก ช้างเผือกที่รับการขึ้นระวางเป็นช้างต้นของหลวง จะมีอิสริยศ-เทียบชั้นเจ้าฟ้า ส่วนช้างสำคัญเชือกอื่นๆ อาจเป็นเจ้าพระยา พระยา หรือพระก็แล้วแต่ จึงมีคำเปรียบเปรยถึง "ยศช้าง ขุนนางพระ"
อย่างไรก็ดี การที่ช้างมีความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมของไทยมาแต่โบราณกาล เมื่อแรกจะมีธงชาตินั้นช้างจึงเป็นธงชาติรูปช้างบนผืนผ้าสีแดง เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดฯ ให้สร้างเครื่องราชอิสริยาภรณ์ ก็มีช้างเผือกในดวงตราเป็นสกุลเครื่องราชสำคัญ "ที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก" ในทางภาษาและวรรณคดี การที่บัญญัติคำเรียกช้างลักษณะนามของช้าง ตลอดจนมีวรรณคดีเฉพาะเกี่ยวกับช้างโดยตรง คือ คำฉันท์ดุษฎีสังเวยกล่อมช้าง ที่มีอยู่หลายฉบับ ดังมีฉบับเก่าแก่สุดเป็นฉบับขุนเทพกวี ส่วนฉบับล่าสุดเป็นพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
ความสำคัญของช้างมีเป็นอเนกประการ ยุคสมัยที่เปลี่ยนอาจทำให้ความสำคัญลดลง แต่คุณค่าทางใจที่ควรรักษาไว้ด้วยความเมตตาต่อช้างไม่ควรจะลดลง.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น