วันอาทิตย์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552

5 ปี"เจริญ วัดอักษร" จุดพลุสู้เพื่อชุมชน

วันที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 19 ฉบับที่ 6779 ข่าวสดรายวัน


5 ปี"เจริญ วัดอักษร" จุดพลุสู้เพื่อชุมชน





ผ่านไปนาน 5 ปี แล้ว ที่ "เจริญ วัดอักษร" ประ ธานกลุ่มอนุรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก แกนนำคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าบ่อนอก ถูกยิงเสียชีวิต เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.2547

หลังการเสียชีวิตของเจริญ เกิดความตื่นตัวในด้านคัดค้านโครงการใหญ่ของภาครัฐและเอกชน ที่ส่งผลกระทบต่อวิถีชาวบ้าน เหมือนเป็นการจุดพลุการอนุรักษ์ธรรมชาติ เพื่อท้องถิ่นบ้านเกิด ให้เกิดขึ้นในสังคมไทย

นอกจากนี้ ยังเป็นการปลุกชาวบ้านในพื้นที่ จ.ประจวบคีรี ขันธ์ ที่เป็นพื้นที่ต้นโครงการยักษ์ใหญ่ของรัฐบาล เซาเทิร์น ซีบอร์ด ที่มีพื้นที่โครงการต่อเนื่องจาก จ.ประ จวบคีรีขันธ์ ยัน 3 จังหวัดชายแดนใต้ ให้ตื่นขึ้นมาต่อสู้กับความไม่เป็นธรรมที่ชาวบ้านต้องยอมจำนนมาโดยตลอด

เกิดเป็นเครือข่ายที่เข้มแข็งในนาม 6 เครือข่ายพันธมิตรพิทักษ์สิ่งแวดล้อมประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย กลุ่มรักษ์ท้องถิ่นบ่อนอก-กุยบุรี, กลุ่มอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบ้านกรูด, กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง, กลุ่มอนุรักษ์ทับสะแก, กลุ่มรักษ์บ้านเกิดอ่าวน้อย และกลุ่มรักษ์ท้องถิ่นกุยบุรีสามร้อยยอด

อีกทั้งยังจับมือร่วมกับเครือข่ายที่อยู่นอกพื้นที่ และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการต่างๆ เช่น ชาวบ้าน จ.ระยอง ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการอีสเทิร์น ซีบอร์ด

ทุกปีในวันครบรอบการเสียชีวิตของเจริญ จะจัดกิจกรรมเพื่อรำลึกการต่อสู้ และเสียสละของนักต่อสู้ทั้งปวง ไม่เพียงแค่เจริญเท่านั้น ทั้งยังจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้ประชาชนรับทราบถึงผลกระทบ รวมถึงยืนหยัดต่อสู้เพื่อดำรงไว้ซึ่งวิถีชุมชน

กรณ์อุมา พงษ์น้อย ภรรยาเจริญ ที่เข้ามารับหน้าที่ประธาน กลุ่มรักท้องถิ่นบ่อนอกต่อจากสามี บอกเล่าถึงการจัดงานรำลึก 5 ปีแห่งการจากไปของเจริญว่า มีการพูดคุยกันในกลุ่มเครือข่ายตั้งแต่สมัยที่เจริญเสียชีวิตใหม่ๆ ว่าจะนำการเสียชีวิตของเจริญมาเป็นประโยชน์ต่อสังคมและการเรียนรู้ถึงการต่อสู้ภาคประชาชน



ปัญหาจากการพัฒนาระบบเศรษฐกิจ ที่ไม่เป็นธรรมต่อชาวบ้านไม่ได้มีเพียง จ.ประ จวบคีรีขันธ์ เท่านั้น แต่ลุกลามไปทั่วประเทศ โดยเฉพาะแผนพัฒนาเซาเทิร์นซีบอร์ด ที่นับรวมตั้งแต่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไปจนถึง 3 จังหวัดชายแดนใต้ จึงมีการพูดคุยกันว่า ในงานรำลึกที่มีขึ้นจะไม่ใช่การจัดเพื่อเจริญ หรือยกย่องให้เป็นปัจเจกบุคคลของเจริญแต่จะใช้วาระการเสียชีวิตของเจริญ เพื่อขยายอุดมการณ์การรักท้องถิ่นให้ออกไปในวงกว้างมากขึ้น และเป็นสิ่งที่เจริญทำมาโดยตลอด

กรณ์อุมา ขยายความว่า โครงการเซาเทิร์นซีบอร์ดจะส่งผลกระทบทั้งฝั่งอันดามันและอ่าวไทย โดยเฉพาะด้านอ่าวไทยทิศทางมุ่งไปยังอุตสาหกรรมหนักทั้งหมด ในเรื่องของเหล็กต้นน้ำ ปิโตรเคมี หลังจากนั้นจะเป็นอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องอีกมากมาย

ส่วนฝั่งอันดามันอาจมองว่าไม่ได้รับผลกระทบอะไรในความรู้สึกของคนทั่วไป เพราะเน้นหนักเรื่องอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว แต่ช่วงนี้ประชาชนที่บริเวณดังกล่าว ตั้งแต่พังงา ภูเก็ต สตูล เริ่มได้รับผลกระทบจากอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เข้าไปในพื้นที่แล้ว

โดยเฉพาะนโยบายของรัฐในการประกาศเขตอุทยานแห่งชาติทับพื้นที่ทำกินของประชาชน เพื่อรองรับแผนพัฒนาการท่องเที่ยว

รวมถึงการประกาศให้ภูเก็ตเป็นฮับของ มารีน่า เป็นศูนย์กลางของท่าเรือยอชต์ ที่เป็นการตอบสนองคนจำนวนน้อยเพียงไม่กี่คนที่สามารถมีเรือยอชต์ได้ แต่การสร้างท่าเรือดังกล่าวกลับส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ เพราะเป็นการไปทำลายหญ้าทะเลและอื่นๆ อีกมากมาย ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของชุมชน

"ความจริงทุกวันนี้สภาพของชาวบ้านทางภาคใต้ มีวิถีชีวิตที่คล้ายคลึงกับภาคตะวันออกเป็นอย่างมาก เพราะวิถีชีวิตต้องพึ่งพิงกับธรรมชาติ ทั้งประมงชายฝั่ง ทำพืชไร่พืชสวน หากเกิดโครงการดังกล่าวขึ้นมาต้องกระทบต่อวิถีชุมชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เอาเฉพาะประมงชายฝั่ง มีชาวประมงที่อาศัยหาเลี้ยงชีพหลายหมื่นลำ เท่ากับหลายหมื่นครอบครัว แสดงว่าต้องมีคนนับแสนคนที่รอการหาเลี้ยงจากอาชีพประมงชายฝั่ง"



หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง มีตัวอย่างจากหลายประเทศมาแล้วถึงความมักง่ายของผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นการปล่อยน้ำเสีย หรือการหลุดรอดของสารเคมีและโลหะหนัก ทะเล ในบริเวณนั้นจะต้องถูกทำลาย ที่สำคัญบริเวณชายฝั่งถือเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์อ่อน และเป็นแหล่งอาหารสำคัญของสัตว์ทะเล หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดผลกระทบต่อการทำประมงชายฝั่ง

แต่โครงการที่จะมีมานั้นอ้างอย่างเดียวคือการสร้างงานในชุมชน แต่ขอถามว่าทุกวันนี้ชาวบ้านทุกคนว่างงานหรือไม่ บอกได้เต็มปากว่าไม่ เพราะทุกคนถือเป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะเป็นผู้ประกอบการรายย่อย ไม่ว่าจะมีเรือประมงเพียงแค่ลำเดียว หรือเป็นเจ้าของไร่ สวน ทุกคนมีศักดิ์ศรีในการเป็นเจ้าของกิจการ เทียบเท่ากับเจ้าของโรงงานใหญ่ๆ มีความสุขสบายตามอัตภาพ วันไหนอยากทำงาน ทำ อยากหยุด หยุด แต่ความสุขสบายที่ชาวบ้านมีนั้น กลับถูกตีความว่าเป็นการว่างงาน รัฐจึงอ้างว่าจะนำการสร้างงานมาสู่ชาวบ้านทั้งที่ไม่มีความจำเป็น

ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือ ชาวระยอง ที่สมัยก่อนเป็นเมืองเกษตรและเมืองประมง เมื่อเปลี่ยนเป็นเมืองอุตสาหกรรม เกิดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมมากมาย แต่ภาครัฐกลับอ้างแต่เรื่องจีดีพี ตัวเลขทางเศรษฐกิจ ว่ารายได้ต่อหัวของประชากรชาวระยองมากกว่าจังหวัดอื่น แต่ถามว่า เมื่อดูสภาพความเป็นจริงรายได้ที่พูดถึงเข้ามาอยู่ในกระเป๋าของชาวระยองมากน้อยแค่ไหนในความเป็นจริง เพราะหลักการหาค่าเฉลี่ย คือ การนำรายได้ทั้งหมดมาหารประชากร

การพัฒนาที่ผ่านมาไม่ได้สร้างความเป็นธรรม หรือสร้างสมดุลให้วิถีชุมชน แต่ทุกวันนี้วิถีชีวิตกับทรัพยากรในชุมชนสมดุลกันอยู่แล้ว อยากให้ภาครัฐมาสนับสนุนส่งเสริมมากกว่า แทนที่จะไปมุ่งสร้างจีดีพี ไม่ว่าจะเป็นประมงพื้นบ้าน เกษตร หรือท่องเที่ยวรายย่อย เพราะเป็นสิ่งที่สร้างรายได้ที่เป็นจริงให้ชาวบ้านมากกว่า เราไม่ได้ปฏิเสธการพัฒนา แต่ทิศทางของโลกบ้าเอาจีดีพีเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการบริหารประเทศมากกว่า ส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชน

"ทุกวันนี้หากเดินไปแถวกุยบุรี ไปเห็นชาวบ้านถอดเสื้อ นุ่งกางเกงเล เดินเท้าเปล่า อย่าไปดูถูกนะ บางคนแม่ป่วยส่งไปรักษาโรงพยาบาลเอกชนแพงๆ ในกรุงเทพฯ เสียค่ารักษาเป็นล้านเขามีจ่าย ไม่ต้องไปพึ่งหลักประกันสุขภาพของรัฐบาล บางบ้านมีรถยนต์มากกว่าสุนัขที่เลี้ยงอีก ชาวบ้านแถวนี้มีเงินมีความสุข แม้ตัวเลขจีดีพีจะไม่มากในสายตาภาครัฐ แต่ความสุขมวลรวมมีสูงมาก"

กรณ์อุมา กล่าวย้ำว่า การต่อสู้ที่ผ่านมา เพื่อต่อต้านโรงไฟฟ้าบ่อนอก บ้านกรูด เป็นเพียงเสี้ยวหนึ่งของโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ด เพราะโรงงานไฟฟ้า เป็นแหล่งพลังงานที่จะรองรับโครงการอื่นๆ ที่จะตามมา จะเห็นว่าเราไม่ได้ต่อสู้ด้วยทัศนคติเพียงอย่างเดียว แต่ต้องต่อสู้กับอำนาจและผลประโยชน์ของคนที่เป็นกลุ่มนำในสังคม

สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่ประชาชนไม่เคยรับรู้ จึงต้องเผยแพร่ให้ทุกคนเข้าใจ และคัดง้างกับความคิดดัดแปลงประเทศชาติของสภาพัฒน์ หลายส่วนในสังคมมักมองว่าพวกเราเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่ขอบอกว่าไม่ใช่ เพราะกำลังต่อสู้การสร้างชาติของรัฐที่คิดแต่เอาจีดีพีเป็นตัวตั้ง และมาเบียดบังต่อวิถีชีวิตของชาวบ้านเท่านั้น แต่การที่รักษาสิ่งแวดล้อมไว้ได้เป็นผลจากการต่อต้าน

ยิ่งเมื่อมีเป้าหมายที่ชัดเจนในเรื่องนี้ จึงตั้งใจที่จะให้งานรำลึกเจริญ เพื่อเป็นการจุดพลุลั่นกลองรบให้คนใต้ร่วมกันคัดง้างกับโครงการเซาเทิร์นซีบอร์ด ที่มีแต่จะสร้างความล่มสลายให้วิถีชุมชน


หน้า 5
http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROb1lYQXdNakl4TURZMU1nPT0=&sectionid=TURNeE53PT0=&day=TWpBd09TMHdOaTB5TVE9PQ==

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น