วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

แจงข้อมูลวุฒิสภาดันแผนพัฒนาลุ่มน้ำยมทั้งระบบ

วันที่ 5 มิถุนายน 2552 เวลา 00:00 น.

แจงข้อมูลวุฒิสภาดันแผนพัฒนาลุ่มน้ำยมทั้งระบบ

นาย ชลิต ดำรงศักดิ์ อธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมชลประทานได้ศึกษาความเหมาะสมและการจัดทำแผนพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ ลุ่มน้ำยมอย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมในฤดูฝน และขาดแคลนน้ำในฤดูแล้ง โดยมีทั้งแผนงานพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก  
 
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาไม่สามารถดำเนินการได้เพราะมีปัญหาอุปสรรค เนื่องจากมีความคิดเห็นไม่ตรงกัน โดยเฉพาะเหตุผลการสร้างเขื่อนจะทำลายสภาพป่า แต่ความเป็นจริงการสร้างเขื่อนทำลายสภาพป่าน้อยมาก ในขณะที่เขื่อนนั้นสร้างประโยชน์ให้กับประเทศชาติมากมาย สำหรับแผนการพัฒนาลุ่มน้ำยมนั้น นอกจากกรมชลประทานมีแผนที่จะพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่บริเวณต้นน้ำยมแล้ว ยังจะสร้างฝายในลำน้ำยมเป็นช่วง ๆ ประมาณ 15 แห่ง ซึ่งจะสามารถกักเก็บน้ำในลำน้ำได้ประมาณ 150 ล้านลูกบาศก์เมตร และสร้างอ่างเก็บน้ำขนาดกลางจำนวน 24 แห่ง สามารถกักเก็บน้ำได้ประมาณ 580 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งขณะนี้เสร็จไปแล้ว 8 แห่ง 
 
รวมทั้งยังมีโครงการพัฒนาศักยภาพ คู คลอง สร้างคลองผันน้ำ คลองชักน้ำ และสร้างแก้มลิง ตลอดจนดำเนินมาตรการไม่ใช้สิ่งก่อสร้าง เช่น เสริมการบริหารจัดการน้ำให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก โดยใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ตลอดจนพิจารณาการโยกย้ายราษฎรที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัย และการแจ้งเตือนภัยน้ำท่วมพื้นที่เสี่ยงภัย เป็นต้น 
 
อธิบดีกรมชลประทานกล่าวด้วยว่า แผนการพัฒนาลุ่มน้ำยมดังกล่าว ล่าสุดทางกรมชลประทาน ได้รายงานให้คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาพื้นที่ การเกษตรและชุมชนที่ประสบภัยธรรมชาติ วุฒิสภา ได้รับทราบข้อเท็จจริงแล้ว  
 
ซึ่งเรื่องนี้ นายชลิต แก้วจินดา  ประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้กล่าวว่า การพัฒนาแหล่งน้ำนั้นอาจจะมีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมบ้าง แต่หากผลประโยชน์ที่ได้       รับคุ้มค่ากว่าผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และผลกระทบก็สามารถแก้ไขได้ก็ควรจะดำเนินการก่อสร้าง.

http://www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Newsid=201157&NewsType=1&Template=1

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น