วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

แรงสะเทือนจากการเมือง กระทบถึงองค์กรของรัฐ / ทางเสือผ่าน

 แรงสะเทือนจากการเมือง กระทบถึงองค์กรของรัฐ / ทางเสือผ่าน
ศิริพงษ์ จันทน์หอม30/4/2552

 

แรงสะเทือนจากการเมือง

กระทบถึงองค์กรของรัฐ

 

                ต้องยอมรับว่าเหตุการณ์ร้ายทางการเมืองบ้านเราในช่วง 2-3 ปีมานี้  ส่งแรงสะเทือนถึงองค์กรของรัฐอย่างลึกๆลับๆ  และอย่างทั่วถึงกัน   ไม่ว่าจะเป็นองค์กรของรัฐที่เรียกว่า องค์กรอิสระ  เช่น  กทช. และหรือองค์กรของรัฐที่เป็นรัฐวิสาหกิจ  เช่น รฟม. -  ททท. ฯลฯ

                เป็นแรงสะเทือนที่สร้างความล่าช้า ล้มเหลว  และเสียหายมหาศาล ทั้งในด้านรายได้ และในด้านของการพัฒนาประเทศ

                เสียหายมหาศาลคือ  ททท. การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย  ซึ่งเป็นรัฐวิสาหกิจเดียวที่ต้องพึ่งพาอาศัยงบประมาณจากรัฐในการดำเนินการ  เนื่องจากไม่มีรายได้เลี้ยงตัวเองเช่นองค์กรของรัฐ อื่นๆอีกหลากหลายองค์กร

                แน่นอนว่าวิกฤตการเมืองอันสืบเนื่องจากการชุมนุมของกลุ่มเสื้อเหลืองกระทำการปิดล้อมสนามบินสุวรรณภูมิคือแรงสะเทือนมหาศาลให้รายได้จากการท่องเที่ยวสูญเสียไป จากวันนั้นถึงวันนี้คงไม่ต่ำกว่าล้านล้านบาท

การสูญเสียรายได้จากการท่องเที่ยวมีส่วนสำคัญทำให้เศรษฐกิจประเทศย่อยยับ เกินกำลังที่องค์กรของรัฐอย่าง ททท. ซึ่งรับผิดชอบดูแลการท่องเที่ยวจะเยียวยาแก้ไขให้นักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาเที่ยวไทยได้เป็นปกติ ในเวลาอันรวดเร็ว

ตราบใดที่สถานการณ์เลวร้ายทางการเมืองยังไม่คลี่คลายถึงจุดสงบสันติ  การดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. คงเดินไปไม่ได้นอกจากคลานไป คลานไป

โดยสถานภาพของ ททท.  แม้จะได้ชื่อว่าเป็นรัฐวิสาหกิจ  แต่ก็เป็นรัฐวิสาหกิจเดียวที่ไม่เหมือนใคร  เนื่องจากรัฐวิสาหกิจอื่นสามารถดำเนินกิจการได้ด้วยตนเอง คือสามารถหารายได้เลี้ยงตัวเองโดยไม่ต้องพึ่งพางบประมาณดำเนินกิจการจากรัฐ 

แต่กิจการของ  ททท. ไม่สามารถหารายได้เจือจุนตัวเองได้  เพราะด้วยหน้าที่แท้จริงคือต้องดำเนินการส่งเสริมการท่องเที่ยว  ดูแลรักษาส่งเสริมสร้างสรรค์แหล่งท่องเที่ยว  ซึ่งต้องอาศัยงบประมาณจากรัฐทั้งสิ้น  ไม่ใช่บริษัททัวร์ หรือขายตั๋วเครื่องบิน

แรงสะเทือนจากการเมืองดังที่รู้เห็นเป็นมา จึงส่งผลกระทบให้ ททท.ขาดความคล่องตัว  ขาดความเชื่อมั่น  และขาดการเกื้อหนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาลที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่หยุดนิ่ง

                ด้วยวิกฤตการเมืองที่สร้างความขัดแย้งไม่จบสิ้น โครงการใหญ่หลายโครงการต้องถูกระงับ  ต้องหยุดนิ่งหรือต้องชะลอไปก่อน หยุดหรือชะลอเพื่ออะไรใครนั้น  คนการเมืองย่อมรู้อยู่แก่ใจ เพราะคนในองค์กรของรัฐแต่ละองค์กรก็รู้ว่าการเมืองเข้าแทรก

                นอกจาก ททท. หรือการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างแรงแล้ว  รฟม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย  ก็ได้รับผลกระทบไม่ต่างกัน  การดำเนินโครงการที่ริเริ่มและลงตัวมานานเกือบ ทศวรรษ  แล้วนั้น

รฟม.ทำรถไฟฟ้าใต้ดินขนส่งผู้โดยสารได้สำเร็จเพียงสายเดียว  อีก 2-3 สายที่ผ่าน ครม.มาหลาย ครม. -  เปรียบไปก็เหมือนม้าตีนต้น พอออกสตาร์ทก็แผ่ว  เพิ่งเริ่มเปิดประมูลได้สำเร็จอีกเพียงสายเดียวคือสายสีม่วง  ส่วนสายสีน้ำเงิน  สีแดง  หรือสีเหลือง สีเขียว ฯลฯ บัดนี้มีอันเป็นไปต้องหยุดนิ่ง นิ่งสนิทเพราะวิกฤตเสื้อเหลือง-เสื้อแดงนี่เอง

                ว่ากันว่ามานานนักแล้วว่า ไม่ว่าองค์กรใดถ้ามือแห่งการเมืองเข้าไปแตะต้องแทรกแซงแล้วละก็ลางหายนะจะเกิดให้เห็นเป็นลางๆทันที

                องค์กรของรัฐอันประกอบด้วย รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระต่างๆนั้น  แม้จะเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาประเทศ  แต่ก็ว่ากันอีกว่า  องค์กรของรัฐทั้งหลายล้วนตกเป็นเครื่องมือในการทำมาหากินของนักการเมืองบางคนในรัฐบาลบางรัฐบาล

                ด้วยเหตุและด้วยผลนั้น  ความรวดเร็ว หรือ ล่าช้า  ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จของโครงการแต่ละโครงการที่องค์กรภาครัฐดำเนินการอยู่ จึงขึ้นอยู่กับภาวการณ์ทางการเมืองเป็นสำคัญ

กทช. - คณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ  คือองค์กรของรัฐอีกองค์กรหนึ่งซึ่งเป็นอิสระ  มีหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่วิทยุ และกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคมให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อประเทศชาติ และประชาชน

ในวิกฤติการณ์ทางการเมือง และในสงครามความขัดแย้งของคนไทยที่เป็นเสื้อเหลืองเสื้อแดง  กทช. ได้รับแรงสะเทือนทางการเมืองไม่น้อยกว่าองค์กรอื่นๆของรัฐ

การใช้รายการวิทยุชุมชนปลุกระดมทางความคิดขัดแย้ง  และชักชวนให้ประชาชนแบ่งกลุ่มแบ่งสีออกมาชุมนุมสร้างความปั่นป่วนให้บ้านเมืองนั้น   กทช. ก็จำเป็นต้องรับแรงสะเทือนนี้ด้วยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในฐานะผู้มีหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่วิทยุกระจายเสียง

และการที่รัฐบาลโดยท่านนายกรัฐมนตรี นายอภิสิทธิ  เวชชาชีวะ  อาศัยอำนาจรัฐสั่งปิดวิทยุชุมชนบางสถานี   รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ ดี.ทีวี  ในข้อกล่าวหาปลุกเร้าประชาชนคนไทยให้เกิดความรู้สึกนึกคิดขัดแย้งแบ่งกลุ่มแบ่งฝ่าย ปลุกระดมให้ผู้คนเสื้อแดงออกมาชุมนุมสร้างความปั่นป่วนวุ่นวายในบ้านเมือง

มีความสงสัยกันอยู่ในหลายกลุ่มหลายฝ่าย ทั้งฝ่ายรัฐบาล  ฝ่ายเสื้อเหลือง เสื้อแดง และฝ่ายประชาชนคนกลางที่ไม่ถือหางข้างใดฝ่ายใดว่า

-                      รัฐบาลโดยนายกรัฐมนตรีมีอำนาจสั่งปิดสถานวิทยุชุมชน และสถานีโทรทัศน์ได้ในทันทีโดยไม่ผ่าน กทช. จริงหรือ?

-                      กทช. ในฐานะผู้มีหน้าที่กำกับดูแลคลื่นวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์  ทำอะไรอยู่ ทำไมจึงไม่กระทำการควบคุมดูแลให้เต็มที่ เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดใช้วิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์  เป็นเครื่องมือก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง

-                      คำถามสุดท้าย  ทำไมจึงปิดแต่เฉพาะสถานีวิทยุกระจายเสียง และวิทยุโทรทัศน์ของกลุ่มคนเสื้อแดง  ทำไมไม่ปิดวิทยุโทรทัศน์ของกลุ่มคนเสื้อเหลือง

การเมือง - เปรียบเหมือนคลื่นเหมือนลม มีทั้งประโยชน์และโทษ  แต่แรงลมการเมืองวันนี้สร้างปัญหหา และส่งผลกระทบรุนแรงต่อการปฺฏิบัติดำเนินการขององค์กรของรัฐ  ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศชาติทั้งในด้านเศรษฐกิจและสังคม

                ปัญหาความขัดแย้ง  ความแตกแยก และความคิดต่าง -  ยังไม่ยุติได้โดยง่าย  ตราบใดที่ทุกฝ่ายยังไม่ปรับความเข้าใจกัน และยังไม่สร้างความเข้าใจถ่องแท้ให้เกิดขึ้นในความรู้สึกของประชาชนส่วนใหญ่ที่เป็นกลาง ที่ไม่ได้สวมเสื้อเหลืองหรือสวมเสื้อแดง

                ความรู้สึกคับข้องใจในการทำงานล่าช้าไม่เห็นผล  ขององค์กรรัฐต่างๆ ล้วนมีส่วนได้รับแรงสะเทือนทางการเมืองทั้งสิ้น

                แน่นอน เราคงต้องมาทำความเข้าใจในขอบข่ายพันธะหน้าที่ขององค์กรของรัฐ และองค์กรอิสระหลายแห่ง  เพื่อขจัดปัญหาความเข้าใจผิดพลาดอันจะสร้างรอยร้าวและความแตกแยกที่จะลุกลามเป็นปัญหาของสังคม  และเศรษฐกิจต่อไปหในวันพรุ่งนี้

ในฐานะองค์กรอิสระ  มีหน้าที่จัดสรรคลื่นความถี่วิทยุและกำกับดูแลการประกอบกิจการโทรคมนาคม ฯลฯ  ซึ่งได้รับแรงสั่นสะเทือนทางการเมืองเป็นองค์กรล่าสุด คงจะต้องออกมาชี้แจงให้คำตอบชัดเจนจริงจังกว่านี้  ไม่ใช่แค่จะตอบคำถามที่ว่า

"กทช.ย่อมาจากอะไร"  -   เท่านั้น

http://www.siamrath.co.th/uifont/Articledetail.aspx?nid=3226&acid=3226

Hotmail® has ever-growing storage! Don't worry about storage limits. Check it out.

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณครับ
    น่าจะเอาเรื่องหา
    รายได้พิเศษในรูปแบบต่างๆมาเสนอด้วยนะครับ
    ผมอยากรู้ครับ

    :)

    ตอบลบ