วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

เมขลาล่องเจ้าพระยา ...บนปริศนา 5+4 (วัด)

 
วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4108

เมขลาล่องเจ้าพระยา ...บนปริศนา 5+4 (วัด)


คอลัมน์ DESTINATION

โดย ณัฐกร เวียงอินทร์


1 2 3 4 5...นับเท่าไหร่

ก็ได้ 1 2 3 4 5

ไม่ได้ต้องการทดสอบรอยหยักในสมองด้วยการนับเลขครับ เพียงแต่สงสัยว่า ภารกิจจิตผ่องใสในการไหว้พระในวันนี้ ทำไมจึงได้ท่องไปเพียง 5 วัด แทนที่จะเป็น 9 วัด

ผมคงต้องย้อนกลับไปดูอดีตซะแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ ?

...

เช้าสดใสวันนี้เป็นโอกาสดีที่จะได้ทำบุญ เพราะทาง บริษัท เอเชียน โอเอซิส จำกัด ได้มองเห็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์ทางการกุศล จึงเปิดเส้นทางการท่องเที่ยวใหม่ขึ้นมา นั่นคือโปรแกรม "ล่องเรือเมขลา ไหว้พระ 9 วัดประวัติศาสตร์ริมฝั่งเจ้าพระยามหานที"

การเดินทางนี้เริ่มต้นตอนเวลาประมาณเก้าโมงครึ่ง ตั้งต้นที่วัดยานนาวา แถวถนนเจริญกรุง

พนักงานนำเที่ยวให้ดอกไม้ ธูป เทียนกับเราก่อนเข้าไปไหว้พระ กลิ่นธูปลอยอบอวลนำเอาสมาธิชั่วขณะเข้ามาสู่ใจของเรา "เรื่องที่บ้าน เรื่องที่ทำงาน เรื่องทะเลาะกับแฟน เก็บไว้นอกวัดก่อน ตอนนี้ต้องทำใจสงบเสียบ้าง" ผมสัญญากับตัวเองเช่นนั้นก่อนเข้าไปในวัด

เล่าประวัติวัดยานนาวาหน่อยดีกว่า วัดนี้เป็นวัดโบราณ ตั้งแต่สมัยกรุงรัตนโกสินทร์ ชื่อดั้งเดิมของวัดนี้ก็สุดแสนเปรี้ยว เขาเรียกกันว่า "วัดคอกควาย" เลยถูกเปลี่ยนให้ดูไพเราะขึ้นในสมัยกรุงธนบุรีว่า "วัดคอกกระบือ" ต่อมาในรัชกาลที่ 1 ทรงสร้างพระอุโบสถใหม่ พอมาถึงรัชกาลที่ 3 พระองค์ได้โปรดเกล้าฯให้ปฏิสังขรณ์วัดนี้ขึ้นมาใหม่ ซึ่งในช่วงนั้นบ้านเราค้าขายกับจีนอย่างคึกคัก พระองค์ทรงเล็งเห็นว่า ในอนาคตคนรุ่นหลังอาจจะไม่เห็นเรือสำเภาจีนอีกแล้ว ที่นี่จึงสร้างสำเภาพระเจดีย์แทนพระสถูปเจดีย์ทั่วไป แล้วเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น วัดยานนาวา

ออกจากวัดนี้แล้ว เราขึ้นเรือลำสวยนามว่า "เมขลา" แล่นเอื่อยๆ เพื่อไปยังที่หมายต่อไป

ที่หมายต่อไปคือ วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร (วัดกัลยา) ซึ่งตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาฝั่งธนบุรี บริเวณปากคลองบางกอกใหญ่ วัดนี้เป็นที่นิยมของชาวจีน มาที่นี่ต้องมาไหว้พระพุทธไตรรัตนนายก (หลวงพ่อโต) หรือชื่อภาษาจีนว่า ซำปอฮดกง หรือ ซำปอกง

ตรงหน้าวัดมีเทพเจ้ามงคลต่างๆ ของจีนด้วย ใครอยากได้มงคลไหน ก็เอาทองคำเปลวไปปิดได้ตามอัธยาศัย ส่วนผมตรงแน่วไปที่เทพเจ้าองค์นี้ทันที "เทพเจ้าแห่งความรัก"

ก็แหม ยังไงเสียความรักก็ชนะทุกสิ่งนี่นา

ล่องเรือต่อกันเถิด จะเกิดผล

สงสัยจริงๆ ว่า วันนี้พ่อรามสูรหายไปที่ใดหนอ จึงไม่มาวิ่งไล่นางเมขลา เรือเมขลาลำนี้จึงต้องต่อสู้กับแสงแดดที่แลบลิ้นเลียแปลบปลาบ โชคดีที่ได้ความสดชื่นของสายลม จึงทำให้การเดินทางครั้งนี้แสนจะเย็นสบาย เมื่อบวกกับการแล่นด้วยสปีดระดับ ชิวชิวของเรือลำนี้ ทำให้หลายคนอาจจะเผลอหลับเอาง่ายๆ

ยังไม่ทันได้ซ่อนตาดำ เราก็ถึงที่หมายต่อไป นั่นคือวัดเล็กๆ ที่มีชื่อว่า "วัดเขียน"

วัดนี้ตั้งอยู่ริมน้ำในเขต ต.บางไผ่ จ.นนทบุรี หลายคนอาจจะไม่คุ้นชื่อเพราะเป็นเพียงวัดเล็กๆ ที่อยู่ริมน้ำ แต่ที่จริงวัดนี้เป็นวัดที่เก่ามาก เพราะขนาดพระประธานปางมารวิชัย เขาจัดสร้างในปี พ.ศ.2323 หรือสมัยปลายกรุงธนบุรี ส่วนที่มาของชื่อวัด เรื่องราวในอดีตก่อนหน้านี้ที่พ่อค้าชาวจีนท่านหนึ่งชื่อว่า นายเคี้ยง ได้ร่วมกันกับชาวบ้านคนอื่นๆ เพื่อสร้างวัดนี้ขึ้นมา นามเดิมของวัดจึงสันนิษฐานว่าชื่อ "วัดเคี้ยง" แล้วเพี้ยนเสียงมาเป็น "วัดเขียน" ในที่สุด

กลับขึ้นเรืออีกรอบ พร้อมกับทานอาหารเที่ยงที่แสนอร่อย เพื่อรอคอยเป้าหมายต่อไป

เห็นไกลลิบๆ เจดีย์สีขาวที่เอียงๆ เป็นสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่า เรามาถึงปากเกร็ดแล้ว

เพราะนี่คือ "เจดีย์เอียง" อันเลื่องชื่อ ที่อยู่ภายในขอบเขตวัด "ปรมัยยิกาวาส" เป็นวัดของชาวมอญหรือรามัญนิกาย จุดสังเกตง่ายๆ คือ ถ้าเราพบหงส์ประดับอยู่รอบๆ วัดใด เชื่อขนมมาแบ่งกันกินได้เลยว่านั่นคือ วัดมอญ

หากเข้าไปไหว้พระในโบสถ์ อย่าลืมสังเกตดูรอบๆ ผนัง เพราะเขาตกแต่งด้วยภาพเขียนลายไทยประยุกต์ด้วยสีน้ำมัน ดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง ส่วนด้านหลังพระอุโบสถก็จะมีพระมหารามัญซึ่งเป็นเจดีย์รูปแบบมอญที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้

ไหว้พระที่นี่เสร็จแล้ว เราเดินลัดเลี้ยวรอบเกาะเกร็ด ซึ่งเต็มไปด้วยร้านขายของมากมาย อย่างเช่น ร้านขายขนมในยุค แฟนฉัน ร้านขายเครื่องปั้นดินเผา ร้านขายดอกไม้ทอด ซึ่งแม้ว่าคนซื้อและคนขายจะไม่หนาตาเท่ากับวันเสาร์-อาทิตย์ แต่พี่ไกด์นำเที่ยวกระซิบบอกเราว่า หากมาเดินวันปกติของขายจะถูกกว่ามาเที่ยวในวันหยุดและต่อราคาได้สบายๆ ใครที่ไปเที่ยวในวันปกติก็ช่วยกันลองสังเกตดูก็แล้วกันครับ

ไม่ทันได้เหนื่อยก็มาถึง "วัดไผ่ล้อม" วัดนี้สร้างสมัยอยุธยาตอนปลาย สิ่งที่น่าชมคือ โบสถ์ที่สวยสง่า ภาษาศิลปะเขาบรรยายว่า "ลายหน้าบันจำหลักไม้เป็นลายดอกไม้ มีคันทวยและบัวหัวเสาที่งดงาม" ลองไปสังเกตกันดู และเพียงเดินไปด้านหลังของวัด ท่านจะพบกับเจดีย์ชเวดากองสีทองที่จำลองมาจากเมืองพม่า สวยได้รูปเลยทีเดียว

...

1 2 3 4 5 ขณะที่นั่งเรือย้อนด้วยความรู้สึกแช่มเฉื่อยเฉยเมยกลับไปยังจุดเริ่มต้น ก็นั่งจิบน้ำกระเจี๊ยบพร้อมกับนับนิ้วไปมาว่า ทำไมวันนี้เรามาเยือนกันเพียง 5 วัด วัดที่เหลือหายไปไหนหนอ

คำตอบก็คือ วันนี้เป็นโครงการท่องเที่ยวนำร่อง จึงลองเชิงกันไป 5 วัดก่อน

วันหน้าถ้ามาอีก เรือเมขลาท้าชน ได้ไปทั้ง 9 วัดแน่

งั้นคราวนี้ฝากไว้ก่อนอีก 4 วัดล่ะ เจ้าเมขลาหน้ามน ! :D (หน้าพิเศษ D-Life)

หน้า 18
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02dlf17250552&day=2009-05-25&sectionid=0225
 


Invite your mail contacts to join your friends list with Windows Live Spaces. It's easy! Try it!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น