วันอังคารที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

2 ธุรกิจเพชรกับวิถีที่แตกต่าง อัลกอร์แดนซ่า เพชรจากความตาย

วันที่ 25 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4108

2 ธุรกิจเพชรกับวิถีที่แตกต่าง อัลกอร์แดนซ่า เพชรจากความตาย



เป็นธุรกิจเพชร มิติใหม่ของเมืองไทย ที่ซื้อโนว์ฮาวจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าด้วยการทำเพชรจากกระดูกคนตาย ! ฐปนี มนต์เสรีนุสรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เลอ โบ จำกัด ผู้ได้รับลิขสิทธิ์อัลกอร์แดนซ่า (Algordanza) มาทำตลาดในเมืองไทยเล่าว่า ได้ติดตามความเคลื่อนไหว ของเทคโนโลยีที่ว่าด้วยการแปลงกระดูกคนตายให้กลายเป็นเพชรมานาน 6-7 ปี แต่เริ่มที่จะสนใจและติดต่อเพื่อขอซื้อลิขสิทธิ์เพื่อมาทำตลาดในประเทศจริงๆ เมื่อ 2 ปีแล้ว ซึ่งใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะดีลสำเร็จ และนำเปิดตัวให้บริการกับคนไทยได้เมื่อเร็วๆ นี้

"จริงๆ เทคโนโลยีตัวนี้ไม่ใช่ของใหม่ เพราะมีการค้นพบมาตั้งแต่สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ที่ใหม่ก็คือมีการนำหลักการดังกล่าวมาพัฒนาต่อจนสามารถทำกระดูกให้กลายเป็นเพชรได้สมบูรณ์มากขึ้น วิธีการก็คือมีการดึงคาร์บอนจากในกระดูก จากนั้นก็นำมาผ่านขบวนการความร้อนในระดับที่สูงสุด ท่ามกลางแรงกดดันที่สูง ระดับเดียวกับการเกิดเพชร ในเหมืองเพชรทั่วไป แต่ทว่าได้จำลองมาอยู่ในห้องควบคุม ซึ่งกว่าจะได้เพชรแต่ละเม็ดนั้นใช้เวลาประมาณ 3-4 เดือน ส่วนขนาดของเพชรที่ได้ใหญ่ที่สุดก็คือ 1 กะรัตต่อเม็ดเท่านั้น"

ตามโนว์ฮาวที่มีอยู่ขณะนี้ ขีดความสามารถที่มีอยู่นั้นสามารถดึงคาร์บอนในกระดูกมาทำเป็นเพชรได้ 1 กะรัต/เม็ด เท่านั้น มากกว่านี้ยังทำไม่ได้

ฐปนีกล่าวว่า ซึ่งเรื่องของกระบวนการแปลงอัฐิเป็นเพชรนั้น ทางเราไม่ใช่คนทำ แต่สิ่งที่จะทำก็คือการเป็นคนกลางในการเชื่อมต่อระหว่างคนไทยที่สนใจอยากจะเก็บความรักความทรงจำที่งดงาม สำหรับคนที่เรารักแต่ได้เสียชีวิตไปแล้วมาไว้ในรูปแบบของเพชรเท่านั้น

"โดยนำกระดูกเพียงส่วนเล็กๆ มาให้เรา จากนั้นเราก็จะส่งกระดูกต่อไปยังบริษัทแม่ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เพื่อเข้าสู่ห้องจำลอง ซึ่งขบวนการทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าเป็นกระดูกของคนที่เรารักจริงๆ นั้น ก็คือเมื่อกระดูกส่งถึงประเทศสวิตเซอร์แลนด์แล้วจะนำมาบรรจุลงในกล่องและติดหมายเลขควบคุมที่กำหนดไว้ ล่วงหน้าเพื่อป้องกันการสับเปลี่ยนและปะปนกัน พร้อมกับมีการลงบันทึกในรายการแสดงการตรวจสอบ และเมื่อแปลงเป็นเพชรเรียบร้อยแล้วก็จะมีใบรับประกันด้วย และถ้าต้องการชี้ชัดไป มากกว่า เทคโนโลยีสามารถทำได้ถึง ขนาดการยิงเลเซอร์ชื่อของผู้เสียชีวิตเข้าไป

ในตัวเพชรได้ด้วยกับความยาวตัวอักษรที่กำหนด"

ตอนนี้ความนิยมบันทึกความทรงจำคนที่เรารักในรูปแบบของอัลกอร์แดนซ่ามี แพร่หลายอยู่ในประเทศแถบเอเชีย อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี ฯลฯ และส่าสุดก็คือประเทศไทย สาเหตุที่เป็นเช่นนี้สืบเนื่องมาจากข้อจำกัดทางวัฒนธรรมของแต่ละประเทศที่ไม่เหมือนกัน

เทคโนโลยีตัวนี้ถูกค้นพบขึ้นในประเทศแถบยุโรปก็จริง แต่กลับไม่แพร่หลายในประเทศที่ค้นพบ เพราะวัฒนธรรมของประเทศในแถบนี้เมื่อคนตายจะนำไปฝัง ขณะที่ในแถบเอเชียเมื่อคนตายจะถูกนำไปทำพิธีสวดและเผา ซึ่งการเผาเท่านั้นถึงจะสามารถนำกระดูกไปแปลงสภาพได้

"จุดนี้จึงกลายเป็นโอกาสทางตลาดที่เรามองว่าน่าจะมีคนไทยบางส่วนที่อยากจะเก็บบางสิ่งบางอย่างของคนที่เรารักไว้ในรูปแบบของเพชรบ้าง จากเดิมที่ส่วนใหญ่ก็จะเก็บอัฐิไว้บูชาเท่านั้น"

ฐปนีกล่าวว่า ต้องยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหม่ของคนไทย แต่ก็เชื่อว่าด้วยไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนไป โดยเฉพาะวิถีชีวิตของคนรุ่นใหม่น่าจะมีความเข้าใจและยอมรับอัลกอร์แดนซ่าได้กับวิธีการบริหารจัดการที่ดีที่ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่าเพชรเม็ดนี้เป็นกระดูกของคนที่เรารักจริงๆ

ส่วนในเรื่องของราคานั้น...ฐปนีกล่าวว่า เนื่องจากเป็นเรื่องใหม่มาก จึงยังไม่ได้มีการกำหนดราคาอย่างเป็นทางการ แต่เบื้องต้นคาดว่าจะอยู่ประมาณ 500,000 บาท ต่อ 1 กะรัต แต่ถ้าทำไม่ถึงกะรัตก็สามารถทำได้ ส่วนราคาก็จะลดลงตามสัดส่วน

"ขีดความสามารถในการแปลงคาร์บอนให้กลายเป็นเพชรต่อครั้ง สามารถทำได้สูงสุด 1 กะรัตต่อเม็ดก็จริง แต่ถ้าต้องการ 0.25 กะรัต/เม็ด ก็สามารถทำได้ หรือถ้า 1 กะรัต จะแยกย่อยเป็น 5 เม็ด ก็สามารถทำได้"

ซึ่งหน้าตาเพชรจากกระดูกที่ออกมาก็จะเป็นเพชรน้ำใสๆ แต่ที่แปลกและแตกต่างมากกว่านั้นก็คือเพชรน้ำใสๆ จะเป็นสีฟ้า เนื่องจากในคาร์บอนกระดูกมนุษย์จะมีสาร Boron ที่ทำให้ได้เพชรเป็นสีฟ้า ซึ่งจะต่างจากเพชรสังเคราะห์ทั่วไป

ส่วนเมื่อได้เพชรเป็นเม็ดๆ ออกมาแล้ว ลูกค้าจะเก็บไว้เม็ดๆ ก็ได้ หรือจะขึ้นแบบ ทำเป็นตัวเรือน อาทิ แหวน จี้ห้อยคอก็สามารถทำได้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณจะเลือก เก็บความทรงจำสำหรับคนที่คุณรักไว้ในรูปแบบไหน !


หน้า 48
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02biz01250552&day=2009-05-25&sectionid=0214
 


See all the ways you can stay connected to friends and family

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น