ลูกปัดปริศนา ตรีรัตนะ (๒) หรือเพียงแค่ "แมงมุมทอง" ของชาวบ้าน
คอลัมน์ แกะ(รอย)ลูกปัด
โดย บัญชา พงษ์พานิช plearnstan@gmail.com
![]() |
"ลูกปัดตรีรัตนะทองคำ" ตัวหนึ่งซึ่งร้อยเอกบุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณระบุไว้ชัดเจนในหนังสือ "ทุ่งตึก เมืองท่าการค้าโบราณ" ว่าคือไตรรัตนะนั้น ชาวบ้านที่ภูเขาทอง จังหวัดระนองไม่เคยคิดหรือรับรู้ด้วย เพราะดูอย่างไรก็ไม่เป็นอย่างอื่นไปได้นอกจาก "ตัวแมงมุมทองคำ" ที่มีตัวกลมโตพร้อมหนวดยุ่มย่ามกับสองดวงตากลมและงวงปากอยู่ตรงกลาง โดยมีขาโค้งยงโย่ยงหยกอยู่สองข้าง วางคว่ำปลายเท้าแผ่อยู่บนพื้น
ในการตามรอยของผม ในหนังสือ "Early Indian Symbols:Numismatic Evidence" ว่าด้วยสัญลักษณ์โบราณของอินเดียจากหลักฐานบนเหรียญตราของ Dr. Savita Sharma ตีพิมพ์ที่กรุงเดลีเมื่อปี พ.ศ.2533 ระบุว่า
ตราอย่างนี้ รูปทรงอย่างนี้ คือ ""นนทิบาท หรือ ตรีรัตนะ หรือ ทอรีน" (Nandipada/Triratna/Taurine)" เชื่อว่าวิวัฒน์มาจากรอยเท้าของโคนนทิอันเป็นเทพพาหนะของพระศิวะโดยรูปนนทิบาทนี้นิยมแพร่หลายมากในสมัยคัมภีร์พระเวทและปุราณะก่อนที่จะนำมาวิวัฒน์ปรับใช้ต่อในพุทธศาสนาและศาสนาไชนนะหรือเชน (หรือนิครนท์ที่ไทยเราชอบเรียกว่าพวกชีเปลือยนุ่งลมห่มฟ้าเนื่องจากมีศีลอันกล้าในเรื่องการนุ่งห่มและดื่มกิน)
Dr.Savita Sharma ระบุว่า รูปเคารพอันศักดิ์สิทธิ์นนทิบาทหรือตรีรัตนะนี้นับเป็นส่วนประดับอันสำคัญในศิลปะและสถาปัตยกรรมอินเดียโบราณ โดยมีความเกี่ยวเนื่องกับแทบทุกศาสนาหลักจนเป็นที่นิยมอย่างแพร่หลายไม่แพ้ "สัญลักษณ์ศรีวัตสะและสวัสดิกะ" ดังที่พบเป็นรอยตราทั้งบนเหรียญตรา และอนุสาวรีย์มากมาย
รวมทั้งน่าจะเกี่ยวพันอยู่กับ "การคิดประดิษฐ์อักขระ" และ "สัญลักษณ์ Taurine" หรือ "Taurus" อันเป็นสัญลักษณ์แห่งราศีที่ 2 หรือพฤษภในสิบสองราศีของชนชาวกรีกโบราณอีกด้วย
เธอบอกว่าลอร์ดคันนิ่งแฮม (Cunningham)เรียกสัญลักษณ์นี้ว่า ""the disc and the crescent", "the triple jems", or "Triratna"" พร้อมระบุว่าลอร์ดคันนิ่งแฮมสรุปอย่างมั่นเหมาะว่า ตรีรัตนะนี้เป็นสัญลักษณ์ในพระพุทธศาสนาอย่างไม่ต้องสงสัย
ในขณะที่พรินเซ็ป (Prinsep) เรียกสัญลักษณ์นี้ในทรงตั้งหงายว่า ""the Buddhist monogram"" และในทรงคว่ำว่า ""the Buddhist Chaitya"" โดยวิลสันและผู้การไซคส์ (Wilson and Colonel Sykes) บอกว่าคือ ""Buddhist triad : Buddha, Dhamma and Sangha""
ขณะที่ไมเซย์ (Maisey) เห็นตามลอร์ดคันนิงแฮมว่าคือ ""disc and crescent""
ที่สำคัญเธอระบุว่าสัญลักษณ์นี้มีการใช้อย่างยิ่งยวดและสมบูรณ์แบบที่ "มหาสถูปสาญจี" แห่งพระพุทธศาสนา ณ จุดต่างๆ เต็มไปหมด ไม่ว่าจะตรงโค้งซุ้มประตู บนยอดเสา ภายใต้ฉัตร ประดับบนด้ามกระบี่ ที่จี้ห้อยกรองศอหรือสายสร้อยมงคล จนกระทั่งบนยอดเสาธงทิวทั้งหลาย และยังพบได้ที่สถูปสมัย "ภารหุต อมราวดี" จนกระทั่งที่ "สารนาถ มถุรา" ซึ่งมีธรรมจักรประดับอยู่ระหว่างสองขาของตรีรัตนะอีกด้วย
ส่วนที่เป็นหลักฐานชิ้นเล็กๆ นั้น เธอระบุว่ามีทั้งที่เป็นหัวแหวน ยอดปิ่นปักผม หัวเข็มขัด ตราประทับ รูปสลักบนฐานสถูป รอยจำหลักบนเศษภาชนะ จนแม้กระทั่งภาพฝาผนังถ้ำ และที่สำคัญคือพบมากบนเหรียญตราจาก "ตักสิลา โกสัมพี พาราณสี อโยธยา" และอีกหลายเมืองโบราณเมื่อประมาณพุทธศตวรรษที่ 3-5
""ตรีรัตนะทองคำ"" ของร้อยเอกบุณยฤทธิ์ ฉายสุวรรณ หรือ ""แมงมุมทองคำ"" ของชาวบ้านตัวนี้ เท่าที่ผมเทียบจากตารางภาพของ Dr.Savita Sharma เหมือนทั้ง ""นนทิบาท"" หรือ ""ตรีรัตนะ"" และ ""ทอรีน"" หรือ ""ทอรัส"" ซึ่งขอชวนแกะรอยต่อในตอนหน้า
ส่วนท่านใดอยากได้เห็นโดยประจักษ์กับตรีรัตนะบนสถูปสาญจี อมราวดีและภารหุต ขอเชิญไปพบกันในงานอาจาริยบูชาท่านอาจารย์พุทธทาสภิกขุ ที่สวนโมกขพลาราม วันเสาร์ที่ 30 พฤษภาคมนี้ ช่วงบ่ายซึ่งผมจะนำชมโดยละเอียดที่นั่น
หน้า 21
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01sun02170552§ionid=0120&day=2009-05-17
Hotmail® goes with you. Get it on your BlackBerry or iPhone.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น