วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

สวีท โฮม 36 ปีที่รักกัน

รายงานโดย :เรื่อง เบญจมาศ เลิศไพบูลย์ /ภาพ ณัฏฐ์ฐิติ อำไพวรรณ:
วันอาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม พ.ศ. 2552
เลี้ยวเข้าซอยลาดพร้าว 101 มาประมาณ 1 กิโลเมตร เราตัดสินใจเดินเท้าเพื่อรับลมยามเช้า ทอดน่องชมบ้านจัดสรรย่านนี้ ส่วนใหญ่ร่มครึ้มด้วยต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์...

ระยะทางพอเรียกเหงื่อ ก่อนจะหยุดสุดซอยหน้าบ้านหลังสุดท้าย แอบมองลอดรั้วเข้าไป แต่มองอย่างไรก็มองไม่เห็น สายตาถูกบดบังด้วยต้นทับทิมลูกดก ที่ระกิ่งก้านออกมานอกประตูไม้สีน้ำตาลเข้ม กดกริ่งบอกเจ้าของบ้านว่า แขกผู้มาเยือนเดินทางมาถึงแล้วนะ "รศ.สรรณรงค์ สิงหเสนี" หรืออาจารย์กบ ยิ้มอ่อนโยนออกมาต้อนรับ ส่วนพี่เป้า "ทับทิม สิงหเสนี" ภรรยาสุดที่รัก ยังสาละวนจัดข้าวของอยู่ในบ้าน กลัวว่ารูปถ่ายออกมาจะไม่สวย
เจ้าบ้านดูกังวลเล็กน้อย ตรงกันข้ามกับเราที่ไม่ห่วงเลย เพราะมองไปรอบๆ เราเห็นบ้านชั้นเดียวแสนน่ารัก เนื้อที่ 73 ตารางวา ปรับแต่งพื้นที่สำหรับปลูกต้นไม้ใหญ่น้อยอย่างพอเหมาะพอเจาะ ตัวบ้านดูโล่งโปร่งสบายด้วยบานเฟี้ยม และหน้าต่างยาวโอบล้อมบ้าน มองทะลุเห็นแมกไม้ที่ส่วนใหญ่เป็นไม้เลื้อยหอม ส่วนการตกแต่งภายใน โดดเด่นด้วยแอบสแทรกต์สีน้ำมันที่ผงาดอยู่บนผืนผ้าใบขนาดใหญ่
ภาพที่ว่าเป็นฝีมืออาจารย์กบที่ลงมือตวัดฝีแปรงด้วยตัวเอง เน้นสีสดใส ชมพู ฟ้า เหลือง มองแล้วสดชื่นเย็นตา ยิ่งมองให้ลึกลงไปก็จะเห็นดอกไม้พลิ้วไหวเริงร่าบนผนังห้อง และแม้พื้นที่ไม่กว้างขวางนัก แต่ด้วยงานฝีมือที่เจ้าของบ้านทั้งสองบรรจงสร้าง ทั้งรูปภาพและกระเป๋าผ้าลายน่ารัก นำมาตกแต่งในมุมต่างๆ ก็ทำให้บ้านดูอบอุ่น ละมุนละไม
บ้านหลังนี้ยังได้ชื่อว่าเป็นฮอบบี้เฮาส์ที่มีชื่อเสียงโจษจันในหมู่เพื่อนฝูง ด้วยเจ้าบ้านจัดมุมกิจกรรมให้หมู่มิตรได้มาอาศัยทำงานด้านศิลปะยามว่าง ได้แก่การวาดภาพสีน้ำ และศิลปะการต่อผ้าหรือควิลต์ ฝ่ายชายคือ "อาจารย์กบ" ปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาวิจิตรศิลป์ คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง โซนของอาจารย์กบ จึงเป็นมุมศิลป์
ขณะที่มุมของ "พี่เป้า" คือมุมควิลต์ ตัดเย็บต่อผ้าด้วยมือ มุมนี้เป็นมุมโปรดของเจ้าบ้านฝ่ายหญิง ที่มักใช้เวลาในวันหยุด จับเข็มจับด้ายเพื่อผ่อนคลายจากงานประจำในตำแหน่งผู้อำนวยการอาวุโสสำนักประชาสัมพันธ์ ธนาคารไทยธนาคาร วันหยุดเป็นช่วงเวลาแห่งความสุข ไม่มีใครย่างกรายจากบ้านไปไหน หากใช้วิธีเชื้อเชิญเพื่อนๆ มาร่วมสังสรรค์ ทำอาหารรับประทานกันในบ้านหลังน้อย
หลังมื้ออาหาร จะมีงานอดิเรกให้ผู้มาเยือนได้เลือกว่า สนใจจะเขียนรูปสีน้ำ โดยมีอาจารย์กบเป็นผู้สอน หรือสนใจจะต่อผ้า กับพี่เป้า ยิ่งไปกว่านั้นหากใครมีอาการง่วงเหงาหาวนอน เจ้าของบ้านก็สุดแสนใจดี นำเบาะมาปูไว้ให้นอนเอกเขนก (แบบนอนไปเลยก็ได้นะ) ผองเพื่อนจึงติดอกติดใจ ได้ทำกิจกรรมดีๆ ได้กินอาหารอร่อย แถมได้งีบกลางวันอีกแน่ะ

อาจารย์กบเล่าว่า ซื้อบ้านหลังนี้ตั้งแต่ปี 2532 ตอนนั้นเน้นโทนเขียว-ขาว ต้นไม้ดอกไม้ก็เลือกแค่ 2 สีนี้ เพื่อให้เป็นสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัยศิลปากร ซึ่งพี่เป้าและอาจารย์กบเคยเรียนมาด้วยกันและพบรักกัน จากเพื่อนเป็นคนรัก จากคนรักกลายเป็นคู่ชีวิต กว่า 36 ปีมาแล้ว

กระทั่งปี 2545 ได้ปรับปรุงบ้านรับสมาชิกใหม่ "น้องจิต" น้องสาวคนเล็กของพี่เป้า ซึ่งเป็นเด็กพิเศษ ความที่ไม่มีลูกทำให้ทั้งสองเกิดความรักโดยมหัศจรรย์กับน้องจิต อาจารย์กบเองเห็นน้องจิตตั้งแต่ยังเล็ก ได้เล่นและอุ้มน้องจิตเสมอในยามแวะเวียนไปบ้านพี่เป้าสมัยคบกันเป็นแฟน

"เล่นกับเขา อุ้มเขามาตลอด จนคุณพ่อคุณเป้าย้ายมากรุงเทพฯ ก็เลยขอน้องจิตมาเป็นลูก ก่อนหน้านี้เคยบอกกันด้วยวาจามาแล้ว เป็นที่รับรู้กันว่าเราจะรับน้องจิตมาเป็นลูกนะ แล้วสุดท้ายก็ได้เขามาเป็นลูกจริงๆ" อาจารย์กบ เล่า

ที่น่ารักอีกอย่างของบ้านหลังนี้ คือการแสดงความรักด้วยการหอมแก้มและกอดอบอุ่น เพื่อนผู้คุ้นเคยกับบ้านหลังนี้จึงมักได้เห็นภาพของทั้งสามกอดกันตัวกลม และทุกวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ สมาชิกทั้งสามก็จะพากันเดินไปหาคุณพ่อพี่เป้าที่อยู่บ้านหลังตรงกันข้าม กราบและพูดคุย ดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน บ้านหลังนี้และอาณาบริเวณโดยรอบ จึงอบอวลไปด้วยความรักที่ต่างเกิดมาเพื่อกันและกัน
 
http://www.posttoday.com/lifestyle.php?id=47697



Windows Live™: Keep your life in sync. Check it out!

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น