รายงานพิเศษ : ภาวะโลกร้อนนำพาเชื้อโรคชนิดใหม่ ๆ จากการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเพราะรังสีความร้อน
ภาวะโลกร้อนนำพาเชื้อโรคชนิดใหม่ๆ จากการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมเพราะรังสีความร้อน ประเทศไทยจึงดำเนินมาตรการเพื่อลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและส่งผลกระทบต่อภาวะโลกร้อน ปัจจุบัน ประชาคมโลกให้ความสำคัญกับปัญหาที่ส่งผลต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยตระหนักว่า สิ่งแวดล้อมดีหรือไม่ดีล้วนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนพลโลกกันถ้วนหน้าในประเทศไทยเอง เรื่องราวของการตรวจสอบมลพิษในเขตนิคมอุตสาหกรรมก็มีความเข้มข้น เป็นข่าวพาดหัวในหนังสือพิมพ์หลายฉบับที่ผ่านมา ต่อเนื่องถึงปัจจุบัน ในระดับโลก ภาวะโลกร้อน หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ อันมีสาเหตุหลักจากปรากฏการณ์เรือนกระจก โดยเฉพาะก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการเผาขยะ ท่อไอเสีย มลพิษจากโรงงานอุตสาหกรรม หรือแม้กระทั่งสารเคมีกำจัดวัชพืชล้วนเป็นตัวการสำคัญ ซึ่งกำลังได้รับความสนใจยิ่ง เมื่อ เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ได้ออกมาย้ำว่า คณะกรรมการระหว่างประเทศว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ ไอพีซีซี (Intergovernment Panel on Climate Change, IPCC) ได้รายงานเรื่องผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในขั้นสุดท้าย โดยการรวบรวมงานวิจัยของนักวิทยาศาสตร์ 2,500 คน จากกว่า 130 ประเทศใช้เวลาในการรวบรวมถึง 6 ปี โดยเนื้อหาเด่นของรายงานระบุว่า มีความเป็นไปได้อย่างน้อยร้อยละ 90 ที่การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ ซึ่งผลที่ตามมาไม่ใช่แค่มนุษย์ต้องประสบกับโรคมะเร็งผิวหนังซึ่งเกิดจากอุณหภูมิความร้อนที่เพิ่มสูงขึ้นเท่านั้น แต่การสูญพันธุ์ของสัตว์และพืชชนิดต่างๆ การเปลี่ยนแปลงพันธุกรรม การกลายพันธุ์ของโรคและการแพร่ขยายโรคชนิดใหม่ๆ ที่เกิดจากรังสีความร้อน เป็นเรื่องที่น่ากลัวกว่า ซึ่งหลายๆ ประเทศทั่วโลก และคนไทยเองได้ประสบชะตากรรมนั้นแล้ว จากเชื้อของไข้หวัดนก หรือแม้กระทั่งไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ใหม่ 2009 ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ ณ ปัจจุบัน ซึ่งก็ยังไม่รวมเชื้อโรคชนิดใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นอีก นับว่ามนุษย์เป็นผู้ทำร้ายตนเอง อย่างไรก็ตามทุกปัญหาย่อมมีสาเหตุที่เกิดและแนวทางแก้ไขซึ่งกรมวิชาการเกษตรเองก็มองว่าเป็นเช่นนั้น ทั้งนี้ นายวิชา ธิติประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักบริหารโครงการ ลด ละ เลิก ใช้ สารเมทิลโบรไมด์ในประเทศไทย กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล และอนุสัญญาระหว่างประเทศเกี่ยวกับการลด ละ เลิกใช้สารเมทิลโบรไมด์ จึงเปิดการฝึกอบรมโครงการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการรับจ้างรมควันวัชพืช จำนวน 19 ราย โดยมอบบัตรกำนัลรายละ 174,000 บาท เพื่อใช้ในการซื้ออุปกรณ์และสารฟอสฟีนมากำจัดวัชพืชแทน เนื่องจากสารเมทิลโบรไมด์ หรือสารโบรโมมีเทน ดาวฟูม หรือเฮลอน 1001 เป็นสารที่ใช้ในภาคการเกษตร ใช้สำหรับป้องกันและกำจัดศัตรูพืชและสัตว์ โดยใช้รมควันในดิน โกดัง และเรือ ในอดีตเคยมีการใช้เป็นสารทำความเย็นในภาคอุตสาหกรรม สารตัวนี้สามารถระเหยแพร่กระจายสู่ชั้นบรรยากาศได้อย่างรวดเร็ว นอกจากทำลายชั้นบรรยากาศแล้ว ยังก่อให้เกิดความร้อนที่เป็นตัวทำให้เชื้อโรคต่างๆ ในอากาศเปลี่ยนพันธุกรรมเป็นเชื้อชนิดใหม่ หรือไม่ในที่สุดจะกลับสู่พื้นโลกด้วยละอองฝน ซึ่งมนุษย์จะหายใจเข้าไป ทำให้มีอันตรายต่อร่างกายมากเพราะจะระคายเคืองต่อปอด และเป็นพิษต่อระบบประสาท ทำให้เกิดการเสพติด หากเกิดความร้อนสูงก็จะทำให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมี กลายเป็นก๊าซไฮโดรเจนโบรไมด์ ซึ่งมีอันตรายมากที่สุด นอกจากสิ่งที่ผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์จากข้อมูล การเรียนรู้วิธีใช้สารเคมีที่ปลอดภัยแล้ว ผลพลอยได้ยังส่งไปถึงการส่งออกสินค้าเกษตรของไทย จะได้รับความไว้วางใจจากคู่ค้ามากยิ่งขึ้น เนื่องจากสินค้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษ อีกทั้งยังเป็นการลดปัญหาภาวะโลกร้อน ช่วยให้ประชาคมโลกไม่ต้องประสบกับการสูดดมสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอีกด้วย http://thainews.prd.go.th/view.php?m_newsid=255205070084&tb=N255205&news_headline
Hotmail® has a new way to see what's up with your friends. Check it out.




ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น