วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คุณหญิงสุพัตรา มาสดิตถ์บทบาทการดูแลธนาคารต้นไม้ชุมชน

คุณหญิงสุพัตรา มาสดิตถ์บทบาทการดูแลธนาคารต้นไม้ชุมชน
ข่าววันที่ 6 พฤษภาคม 2552 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

                 หลังจากที่เงียบหายไปจากแวดวงการเมืองและสังคม ไปศึกษาเรื่องธรรมะและทำงานเกี่ยวกับสตรีในบทบาทการเมืองอย่างเงียบ ๆ ล่าสุด "คุณหญิงแอ๋ว-สุพัตรา มาศดิตถ์" อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้หวนกลับมาช่วยงานภายใต้รัฐบาล "อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ" โดยไม่ได้ขอตำแหน่งทางการเมืองแต่อย่างใด แต่มาดูแลโครงการธนาคารต้นไม้ ช่วยชุมชนแก้วิกฤต ภายใต้ชายคาของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)

         คุณหญิงสุพัตรา เล่าว่า ที่ผ่านมาได้มีโอกาสเดินทางไปบรรยายเกี่ยวกับเรื่องสตรีกับบทบาทด้านการเมืองในต่างประเทศ ซึ่งผู้หญิงที่เข้ามาสู่การเมืองหากมีโอกาสได้ร่วมตัดสินอะไรแล้ว เชื่อว่าจะสามารถลดความตึงเครียดลงได้ สำหรับการเข้ามาดูแลธนาคารต้นไม้ในชุมชนของ สสส. นั้น  ที่จริงแล้วสมัยที่เป็นรัฐมนตรีก็ได้กำกับดูแลชุมชนอยู่แล้ว ทำให้ทราบถึงปัญหาต่าง ๆ มากมาย ยิ่งลงไปสัมผัสกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ทำให้ได้เรียนรู้ถึงปัญหาเชิงลึก โดยบางปัญหาก็ชาวบ้านก็ใช้ภูมิปัญญาของพวกเขาแก้ไข นับเป็นสิ่งที่ดี

                ส่วนเรื่องการปลูกต้นไม้นั้น วงจรการปลูกพืชของชาวบ้านจะมี 3 แบบ คือ ปลูกกิน ปลูกใช้ และปลูกเพื่อขาย โดยในเชิงพาณิชย์ ดูเหมือนพ่อค้าจะรวยมากกว่าคนปลูก โดยคนปลูกนั้นต้องประสบมากมาย เช่น ศัตรูพืช ทำให้ต้องซื้อยาฆ่าแมลงมากำจัด เดี๋ยวก็มีน้ำท่วม เดี๋ยวก็ดินแห้งแล้ง ส่วนเรื่องการใส่ปุ๋ยก็กลายเป็นปุ๋ยเคมีที่มีราคาสูง ซึ่งมองว่าปุ๋ยอินทรีย์มีประสิทธิภาพน้อยกว่า ทั้ง ๆ ที่จริงแล้วมีไม่แพ้กัน แต่ปุ๋ยอินทรีย์  ไม่ทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

         "ปัจจุบันประชาชนได้หันมาทำเกษตรทฤษฎีแนวใหม่อันเนื่องมาจากพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  ที่เน้นเกษตรกรรายย่อยที่มีที่ดินจำนวนน้อย สามารถเลี้ยงตัวเองได้ โดยเน้นการผลิตข้าวให้เพียงพอต่อการบริโภคตลอดทั้งปี โดยให้มีพืชผักและอาหารโปรตีนจากการเลี้ยงปลา เป็ด ไก่ ไว้บริโภคได้ตลอดทั้งปีเช่นกัน นับเป็นการสร้างชุมชนให้เข้มแข็ง"

               คุณหญิงสุพัตรา กล่าวว่า ต้องขอหยิบยกคำกล่าวของ  นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ซึ่งได้พูดถึงการสร้างชุมชนให้เข้มแข็งด้วยว่า เราต้องหมุนกลับไปหนุนข้างล่าง คือ การสร้างรากฐานให้เกิดชุมชนเข้มแข็ง เพราะเรามีจุดแข็งเรื่องการผลิตอาหารไม้ว่าจะเผชิญวิกฤติอย่างไรก็สามารถอยู่รอดได้ โดยชุมชนท้องถิ่นจะสามารถดูดซับคนตกงาน เนื่องจากมีฐานทรัพยากรที่สำคัญซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดีที่นายกรัฐมนตรี (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ) กำลังจะประกาศนโยบายธนาคารต้นไม้

               ทั้งนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.) เป็นผู้ออกพันธบัตร และกำลังเสนอโครงการนี้ให้รัฐบาลพิจารณา เพราะมีการคำนวณตัวเลขว่า หาก 5,000 ครัวเรือนที่เข้าร่วมโครงการปลูกต้นไม้ครอบครัวละ 1,000 ต้น ก็จะได้ต้นไม้ถึง 5,000 ล้านต้น ซึ่งต้นไม้ 1 ต้นจะทำประโยชน์ได้ถึง 10,000-40,000 บาท การปลูกต้นไม้จึงถือเป็นเงินบำนาญที่มีมูลค่า

          คุณหญิงสุพัตรากล่าวถึงความคาดหวังกับหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายกับการดูแลโครงการธนาคารต้นไม้ว่า โครงการดี ๆ จะไม่เกิดหากขาดความร่วมมือที่ดีทั้งจากรัฐและเอกชน อย่าง ธกส. ที่เข้ามาช่วยดูแลโครงการนี้ อยากเห็นประชาชน โดยเฉพาะในชุมชนระดับรากหญ้าอยู่ดีกินดี ไม่มีภาระหนี้สิน รัฐบาลเองก็จะพยายามเข้ามาดูแลอย่างใกล้ชิดที่ไม่ใช้เป็นการล้วงลูก เพื่อสามารถที่จะช่วยเหลือพร้อมให้คำปรึกษาได้

                "ที่สำคัญเรื่องการให้ความรู้การให้ศึกษาที่ก้าวหน้า เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิต อย่างเรื่องอินเตอร์เน็ตหลายหมู่บ้านสามารถใช้ได้เป็นอย่างดียิ่ง ส่วนตัวเองแม้ว่าวันข้างหน้าจะไม่ได้ดูแลโครงการนี้ แต่ก็จะเฝ้าติดตามและคอยช่วยเหลือ พร้อมทั้งเป็นกำลังใจตลอดไป"

 

              

 
  รูปประกอบข่าว
http://www.siamrath.co.th/uifont/NewsDetail.aspx?cid=97&nid=37527


Hotmail® has a new way to see what's up with your friends. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น