วันพุธที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ครูแจ้ง คล้ายสีทอง ช่างขับเสภาหนึ่งเดียวในแผ่นดิน กับ..วันวานที่กำลังผ่านเลย

วันที่ 06 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11379 มติชนรายวัน


ครูแจ้ง คล้ายสีทอง ช่างขับเสภาหนึ่งเดียวในแผ่นดิน กับ..วันวานที่กำลังผ่านเลย


โดย ชมพูนุท นำภา



สุจิตต์ วงษ์เทศ ให้ฉายาชายวัยสูงอายุ 74 ปี ผู้นี้ที่ปัจจุบันกำลังนอนพักรักษาตัว ที่โรงพยาบาลศิริราช ว่า "ช่างขับคำหอม" ซึ่งหมายถึงร้องเพลงไทยเดิมและขับเสภาได้ไพเราะเสนาะหู

ชายวัย 74 ปี ผู้นี้ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็น "ครูแจ้ง คล้ายสีทอง" ปรมาจารย์ศิลปินแห่งชาติคนเดียวในแผ่นดิน ที่มีน้ำเสียงเป็นเลิศยากจะหาใครเทียมในการขับเสภา

"ครูแจ้งกำลังนอนป่วยด้วยอาการเส้นเลือดสมองตีบเฉียบพลัน ซึ่งมีผลทำให้เป็นอัมพฤกษ์ครึ่งตัวทางซีกซ้าย แขน และขาด้านซ้ายไม่สามารถขยับได้ อีกทั้งยังพูดจาไม่ชัดเช่นแต่ก่อน"

หนแรกครูแจ้งเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช จ.สุพรรณบุรี จากนั้นได้ย้ายเข้ามารักษาต่อที่โรงพยาบาลศิริราช กรุงเทพฯ โดยมี "ป้าบุญนะ คล้ายสีทอง" ภรรยาคู่ชีวิตวัย 67 ปี ทำหน้าที่เฝ้าไข้ด้วยความห่วงใย

สภาพร่างกายของครูแจ้งผ่ายผอมผิดหูผิดตา-ผิดจากคราก่อนที่เคยไปนั่งสนทนาข้างบ้านริมน้ำ จ.สุพรรณฯ และครูเมตตาขับเสภาให้ฟังเป็นบุญหู

มาวันนี้เสียงของครู..เกือบจะไม่มีให้ฟังอีกแล้ว เพราะโรคร้ายที่คุกคาม

ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยาก แม้จะยังยิ้มแย้มอารมณ์ดีพูดเล่นพูดหัวกับลูกหลาน แต่ก็เป็นที่รับรู้ว่าลึกๆ ลงไปในใจของป้าบุญนะนั้น คือทุกข์แสนสาหัส

ป้าบุญนะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฟังว่า เมื่อสองเดือนก่อนหน้าจะเข้าโรงพยาบาล ระหว่างกลับจากไปสอนที่วิทยาลัยนาฏศิลปสุพรรณบุรี กำลังจะไปเยี่ยมลูกสาวที่เพิ่งคลอด ที่โรงพยาบาลสองพี่น้องครูแจ้งได้ขับรถยนต์ไปด้วยตัวเอง อยู่ๆ ก็เกิดอาการผิดปกติ ปากเบี้ยว ตาเหลือกไปข้างบน

เท้าเหยียบคลัตช์รถไม่ได้

"รู้สึกตกใจมาก ก็ถามครูว่าขับไหวไหม ครูบอกว่ายังไหว จึงขับลากยาวไปถึงโรงพยาบาลสองพี่น้อง พอไปถึงก็เอาขาลงจากรถไม่ได้ หาที่จอดรถก็กึกกักๆ เลยให้พยาบาลเอารถเข็นมารับตัว หมอเช็คความดันขึ้นสูงมาก 400 กว่า จึงบอกให้กลับบ้านให้เอายาไปกิน ซึ่งรู้สึกงงมากที่หมอให้กลับบ้าน แต่ก็กลับ แต่พอมาถึงบ้านก็คิดได้ว่าครูแจ้งเดินไม่ได้ จึงต้องพาย้อนกลับไปโรงพยาบาลอีกครั้ง เจอหมอคนใหม่ ก็เลยได้เอาตัวไว้ และตรวจเช็คสมอง ปรากฏว่า เส้นเลือดสมองตีบเฉียบพลัน จึงต้องรักษาตัวอยู่ชั่วคราว แต่อาการไม่ดีขึ้น ต่อมาได้ติดต่อโรงพยาบาลศิริราช ซึ่งก็ได้รับตัวเข้าไว้เป็นคนไข้"

ครูแจ้งขณะรักษาตัวที่โรงพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี


"ป้าบุญนะบอกว่า ถึงบัดนี้ครูแจ้งยังรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราชมาได้สองเดือนกว่าแล้ว และต้องทำกายภาพบำบัดควบคู่กับการกินยา ซึ่งถือว่าค่าใช้จ่ายแต่ละเดือนหนักพอสมควร"

"ตอนนี้เงินเดือนครูแจ้งในแต่ละเดือนรวมๆ แล้วเหลือประมาณ 10,000 กว่าบาท ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการรักษาตกเดือนละ 40,000 บาท และมูลนิธิ สวช.ให้เบิกได้ครึ่งเดียว ซึ่งก็ยังไม่พอ ทำให้ลำบากอยู่เหมือนกัน ดังนั้น จึงคิดว่าซีดีที่ได้จัดทำไว้แล้วนั้นจะสามารถนำมาช่วยเหลือในครั้งนี้ได้ เพราะครูต้องรักษาตัวอีกนาน"

"ซีดีที่ป้าบุญนะพูดถึง ก็คือซีดีชุดสื่อการเรียนการสอน อนุรักษ์เพลงไทย และชุดวรรณคดี"

"เรื่องนี้ป้าคาดไว้แล้วตั้งแต่ต้นว่าจะเกิดขึ้น จึงบอกครูแจ้งว่าให้ทำซีดีอนุรักษ์เสียงร้องไว้ เพราะต่อไปเผื่อครูเป็นอะไรไป ร้องไม่ได้ จะได้มีสืบทอดไว้ให้เด็กรุ่นหลังฟัง ว่าการขับเสภานั้นเป็นอย่างไร โดยเฉพาะการร้องของครูแจ้งมีเอกลักษณ์ ไม่มีใครเหมือน ป้าคิดว่าเสียงครูแจ้งก็เป็นสมบัติของชาติด้วย ถ้าไม่อนุรักษ์ไว้ต่อไปคนรุ่นหลังก็จะไม่รู้จัก..

"..แล้วเพลงไทยก็มีประโยชน์หลายอย่าง เป็นการกล่อมเกลาจิตใจเด็ก ทำให้อารมณ์ดี รักเพลงไทย แล้วการขับเสภาของครูแจ้งจะขับตามอารมณ์ของบทนั้นๆ และเข้าถึงลึกซึ้ง ถ้าครูแจ้งไปร้องโขน หรือ ละคร ตัวละครก็จะรำได้อารมณ์ลึกซึ้งมากตามเสียงร้องของครู" เสียงป้าบุญนะยังบอกเล่าเรื่อยๆ

ภรรยาครูแจ้งบอกอีกว่า หลังจากจบการแสดงแล้วนักแสดงจะมาไหว้ขอบคุณครูแจ้งทุกครั้ง เพราะครูร้องเข้าถึงบททำให้พวกเขารำได้ตามอารมณ์

"มีครูที่เล่นเป็นตัวทศกัณฐ์ ชื่อเล่น ครูต้อย จะบอก "แจ้ง วันนี้แกร้องให้ฉันรำนะ.." แบบนี้ทุกครั้งที่เขาจะเล่นเป็นตัวไหน ก็จะมาบอกให้ครูแจ้งร้อง เพราะถ้าครูร้องแล้วคนฟังเคลิบเคลิ้มไปด้วย ครูแจ้งเขามีพรสวรรค์สมกับที่เป็นศิลปินแห่งชาติ" รอยยิ้มของป้าบุญนะปรากฏให้เห็นเป็นครั้งแรก

ป้ายังรำลึกความหลังให้ฟังอีก ว่า "เพลงลาวดวงเดือน" กับ "ตับลาวเจริญศรี" เป็นเพลงที่ครูแจ้งเคยร้องถวาย สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ที่พระตำหนักสิริยาลัยริมน้ำ จ.พระนครศรีอยุธยา


"สมเด็จพระนางเจ้าฯ ทรงโปรดมาก แล้ววันนั้นสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ก็เสด็จฯ ด้วย ท่านทรงยืนมองมาที่ครูแจ้งแล้วรับสั่งว่าทำไมครูร้องเพราะจังเลย แล้วก็รับสั่งให้ครูแจ้งเข้าไปที่วังนนทบุรี โปรดให้ร้องเพลงปี่แก้วน้อย โฉมเฉลา ซึ่งเป็นเพลงไทยเดิม ตอนหลัง ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัตน์ นำมาประยุกต์"

ป้าบุญนะเล่าถึงตรงนี้ ครูแจ้งซึ่งนอนอยู่ที่เตียงก็สวมวิญญาณศิลปิน ร้องแทรกขึ้นมา แม้น้ำเสียงจะไม่ชัด แต่ครูแจ้งก็จำเนื้อร้องได้แม่นยำ

"โฉมเฉลาเยาวภาอย่าเฉลียว พี่เคยเที่ยวเจนจิตทุกทิศา ไม่เคยพบนารีที่ต้องตา ได้พบเจ้ากัลยาจึงซ่านรัก พี่ขอยื่นคำขาดในชาตินี้ จะไม่มีผู้หญิงอื่นให้เสียศักดิ์ แม้นวลน้องไม่ปองปรองดองรัก ก็เชิญชักดาบฟันให้บรรลัย"

สิ้นเสียงร้องเสียงแหบพร่าก็พูดขึ้นว่า "ตอนนี้เสียงฉันแห้ง เสียงหายไป..ไม่มีแรง แขนซ้ายขยับไม่ค่อยได้ ขาข้างซ้ายก็ไม่มีแรง แต่ถ้าหายแล้วฉันจะไปขับเสภาอีก.." น้ำเสียงอ่อนเพลียของครูแจ้ง

ป้าบุญนะกล่าวขึ้นอีกครั้งหลังครูแจ้งพูดจบว่า ความจำของครูยังดีและมีอารมณ์ขันอยู่เสมอ ชอบเล่าเรื่องตลกๆ เวลาฝึกพูดกายภาพบำบัดทำให้กลายเป็นขวัญใจของเจ้าหน้าที่ในโรงพยาบาล

สำหรับซีดีสื่อการเรียนการสอนของครูแจ้ง ป้าบุญนะอธิบายเพิ่มเติมว่า อัดไว้หลายปีแล้วตั้งแต่ตอนอายุประมาณ 60 ปี เป็นการอ่านทำนองเสนาะ และ ขับเสภา

"เด็กสมัยนี้มันร้องไม่เป็นรส ร้องไม่เพราะแล้ว หลายเพลงที่ฉันร้องถวายเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน อย่าง เพลงตับลาวเจริญศรี ไม่มีใครร้องได้เหมือนฉัน เพราะฉันต่อจากครูแช่มช้อย ดุริยพันธุ์ เรื่องที่ชอบขับเสภามากที่สุดก็ขุนช้างขุนแผน คงเพราะเป็น จ.สุพรรณด้วยมั้ง" เสียงแหบพร่าของครูแจ้งแทรกขึ้นอีก

" ครูแจ้งบอกอีกว่า สิ่งที่เป็นห่วงที่สุด คือกลัวว่าการขับเสภาจะหายไปจากชาติ เพราะเด็กวัยรุ่นสมัยนี้ไม่ศึกษาบทกลอนให้ละเอียด เอาแต่ขับเรื่อยเปื่อยไป ขับเสภากันอย่างไม่รู้ว่าความหมายของคำ ไม่รู้อารมณ์กลอน"

"ไม่เหมือนสมัยก่อน ม.ล.ปิ่น มาลากุล เคยบอกว่า ต้องขับยังงั้นยังงี้ ท่านสอนดีมาก นั่งกินข้าวก็สอน เสภามันต้องเรียน แต่ตอนนี้มันจะไม่มีครูให้เรียนหาคนสืบทอดลำบาก"

เสียงป้าบุญนะเสริมขึ้นว่า "อยากฝากกับครูอาจารย์ภาษาไทยทั่วประเทศที่เคยรู้จักครูแจ้ง ได้ยินเสียงครูแจ้ง ว่าตอนนี้ครูแจ้งไม่สามารถที่จะร้องเพลงได้เหมือนเดิม ไม่สามารถเป็นวิทยากรครูภาษาไทยได้เหมือนเดิม ซึ่งไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะหาย จึงอยากให้ช่วยอนุรักษ์เสียงครูเอาไว้เพื่อเป็นการศึกษา สืบทอดให้เยาวชนรุ่นหลังได้เรียนรู้

""เพราะเสียงครูแจ้งนั้นหาไม่ได้อีกแล้วในแผ่นดิน""



ซีดีเสียงครูแจ้ง คล้ายสีทอง

สื่อการเรียนการสอนทรงคุณค่า


เป็นซีดีที่ป้าบุญนะจัดทำไว้ตั้งแต่ตอนที่ครูแจ้งยังสบายดี โดยจัดทำขึ้น 2 ชุด รวม 18 แผ่น

เป็นชุดสื่อการเรียนการสอน และชุดวรรณคดี

สำหรับชุดสื่อการเรียนการสอน ประกอบด้วย ชุดขับร้องเพลงไทย ระดับประถมศึกษา ถึงมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 5 แผ่น

ชุดอ่านทำนองเสนาะ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 3 แผ่น ชุดวรรณคดีวิจักษ์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 3 แผ่น และชุดขับเสภา ทุกระดับชั้นจำนวน 1 แผ่น

ส่วนชุดวรรณคดี 8 แผ่น ประกอบด้วย ลาวดวงเดือน, ตับลาวเจริญศรี, เห่เรือ, ขับเสภาตอนขึ้นเรือนขุนช้าง, พาลีสอนน้อง, ตับวิวาห์พระสมุทร, เครื่องสายปี่ชวา และ เพลงปี่พระอภัยมณี

กระบวนการอัดทั้งหมด เป็นการอัดอย่างพิถีพิถันที่ห้องอัดครูทินกร ไกรลาศ โดยมีนักร้อง และ นักดนตรีของกรมศิลปากรทั้งหมด

ราคาจำหน่ายแผ่นละ 120 บาท รายได้จากการจำหน่ายซีดีนี้ ถือเป็นอีกทางหนึ่งที่นำมาเป็นค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวครูแจ้ง ซึ่งต้องใช้เงินจำนวนมาก

จึงขอแรงช่วยกันสนุบสนุนซีดีของศิลปินแห่งชาติหนึ่งเดียวในการขับเสภา

สอบถามรายละเอียดการซื้อหาและจำหน่ายที่ ป้าบุญนะ คล้ายสีทอง โทร.08-1299-6638, 08-3032-8302 หรือสามารถซื้อได้ที่พิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้งไทย จ.นครปฐม

และที่ คณะหุ่นละครเล็ก โจหลุยส์ สวนลุมไนท์ บาร์ซาร์

หน้า 20
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra01060552&sectionid=0131&day=2009-05-06


Hotmail® has ever-growing storage! Don't worry about storage limits. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น