วันศุกร์ที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

30 ปี แห่งการรอคอย ตัวชี้วัดหญิงชาย...ก้าวแรกแห่งความเสมอภาค

วันที่ 08 พฤษภาคม พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 11381 มติชนรายวัน


30 ปี แห่งการรอคอย ตัวชี้วัดหญิงชาย...ก้าวแรกแห่งความเสมอภาค




แม้รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 ในมาตรา 30 จะบัญญัติไว้อย่างสวยหรูว่า "บุคคลย่อมเสมอกันในกฎหมายและได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน ชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรมต่อบุคคลเพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษา เพศ อายุ ความพิการ สภาพทางกายหรือสุขภาพ สถานะของบุคคล ฐานะทางเศรษฐกิจหรือสังคม ความเชื่อทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทางการเมืองอันไม่ขัดต่อบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญ จะกระทำมิได้"

แต่ในความเป็นจริงการปฏิบัติในด้านต่างๆ ความเสมอภาคของหญิงชายยังเกิดขึ้นน้อยมาก และยังไม่มีตัวชี้วัดใดที่ชี้ให้เห็นถึงความเสมอภาคทางเพศ ด้วยเหตุนี้สำนักงานกิจการสตรีและสถาบันครอบครัวกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จึงร่วมมือกับโครงการสตรีและเยาวชนศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดทำ "มาตรฐานและตัวชี้วัด ความเสมอภาคระหว่างหญิงชาย" ขึ้นเพื่อขับเคลื่อนมาตรฐานและตัวชี้วัดความเสมอภาคระหว่างหญิงชายไปสู่การปฏิบัติ

บรรยากาศแถลงเปิดตัวชี้วัด


สำหรับมาตรฐานและตัวชี้วัดที่จะจัดทำขึ้นนั้น นางกรวิภา วิลลาส ที่ปรึกษาโครงการจัดทำมาตรฐานและตัวชี้วัดความเสมอภาคระหว่างชายหญิง บอกถึงรายละเอียดว่า มาตรฐานที่จัดทำขึ้นจะครอบคลุมความเสมอภาคหญิงชาย 4 ด้าน ได้แก่ 1.ความเสมอภาคในศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ 2.ความเสมอภาคทางสังคมซึ่งจะดูถึงความเสมอภาคในการมีส่วนร่วมทางการเมืองและการบริหารปกครองทุกระดับ 3.ความเสมอภาคในครอบครัวจะมีองค์ประกอบของความเสมอภาคในความรับผิดชอบต่อชีวิตความเป็นอยู่ในครอบครัว และ 4.ความเสมอภาคในการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจซึ่งจะดูถึงความเสมอภาคในการได้รับการส่งเสริมให้พึ่งพาตัวเองได้ทางเศรษฐกิจ

"ความเสมอภาคระหว่างหญิงชายในไทยเริ่มมีขึ้นครั้งแรกตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 โดยบรรจุอยู่ในแผนพัฒนาสตรีระยะยาว ที่เกิดขึ้นจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฉบับที่ 4 (พ.ศ.2520-2524) ซึ่งทำมานานกว่า 30 ปี แต่ไม่เคยมีการชี้วัดเลยว่ามีความเสมอภาคเกิดขึ้นจริงหรือไม่ ช่องว่างระหว่างชายหญิงมีมากน้อยแค่ไหน การจัดทำมาตรฐานตัวชี้วัดในครั้งนี้ถือได้ว่าเป็นครั้งแรกในเมืองไทย ซึ่งมาตรฐานที่ใช้ชี้วัดจะสะท้อนถึงคุณภาพชีวิตของผู้หญิงที่ควรจะมี เมื่อนำมาเปรียบเทียบกับผู้ชายแล้วดูถึงความเสมอภาคที่เกิดขึ้น โดยใช้มาตรฐานตัวชี้วัดแบบเดียวกับที่มีใช้ในสากล หากปฏิบัติได้จริงก็จะช่วยลดช่องว่างทางสังคมระหว่างชายหญิงให้กลับมาเสมอภาคกันได้" นางกรวิภาอธิบาย

กรวิภา วิลลาส-มาลี พฤกษ์พงศาวลี


ความเสมอภาคของหญิงชายที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด คือ ความเสมอภาคทางการเมือง ซึ่งนางมาลี พฤกษ์พงศาวลี อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชี้ให้เห็นว่า เรื่องการเมืองมิติทางสังคมจะมองว่าผู้ชายเท่านั้นมีบทบาทหลักในการกำหนดนโยบายประเทศ ขณะที่ผู้หญิงยังต้องแบกภาระทำงานนอกบ้านและครอบครัว จะเห็นได้จากตัวเลขสัดส่วนของผู้หญิงที่เข้ามาเป็นนักการเมือง โดย ส.ส.หญิงมี 11% ขณะที่ ส.ว.หญิงมี 16% เมื่อเทียบกับสัดส่วนของผู้ชายถือว่ายังห่างไกลกันมาก แม้รัฐธรรมนูญปี 2550 จะกำหนดให้พรรคการเมืองมีสัดส่วนของผู้หญิงมาเป็น ส.ส.และ ส.ว.อย่างเท่าเทียมกับผู้ชาย แต่ก็ไม่มีพรรคการเมืองใดปฏิบัติตาม ดังนั้น มาตรฐานและตัวชี้วัดจะสะท้อนความเสมอภาคในสังคมไทยได้อย่างแท้จริง

แม้จะเป็นเพียงการเริ่มต้นที่ดูเหมือนช้าเกินไป แต่ก็ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีว่าต่อไปนี้จะได้เห็นความเสมอภาคระหว่างหญิงและชายในประเทศไทยเกิดขึ้นอย่างแท้จริง

หน้า 25
 
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01lad01080552&sectionid=0115&day=2009-05-08


Hotmail® has ever-growing storage! Don't worry about storage limits. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น