suntu: รอยยิ้มพิมพ์ใจ 'พนักงานต้อนรับ' มิติใหม่ศาลยุติธรรมบริการประชาชน

วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

รอยยิ้มพิมพ์ใจ 'พนักงานต้อนรับ' มิติใหม่ศาลยุติธรรมบริการประชาชน

วันอังคาร ที่ 09 มิถุนายน 2552 เวลา 17:56 น

เชื่อเถอะ หากคุณเอ่ยคำว่า “พนักงานต้อนรับ” ก็มักนึกถึงหญิงสาวหรือชายหนุ่มที่แต่งกายด้วยเสื้อสูท มีปลอกแขนและใส่หมวกเท่ ๆ คอยให้บริการในหลาย ๆ สถานที่ค่อนข้างหรูหรา เช่น โรงแรม สนามบิน รถทัวร์ หรือเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์หน่วยงาน องค์กรเอกชนต่าง ๆ

ที่เรารู้จักคุ้นเคยกันก็คือ พนัก งานต้อนรับบนเครื่องบิน หากเป็นผู้หญิงนิยมเรียกว่า แอร์โฮสเตส หากเป็นผู้ชายต้องเรียก สจ๊วต

แม้กระทั่งในโรงแรมหรูหราระดับสี่-ห้าดาวก็จะมีพนักงานต้อนรับหรือรีเซฟชั่น คอยทำหน้าที่ต้อนรับ      บุคคลสำคัญหรือแขกเหรื่อผู้มาใช้บริการหรือกรุ๊ปทัวร์ และหากเป็นสถานที่บันเทิงเริงราตรียามค่ำคืน ผับ บาร์ ก็จะมีพนักงานสาวสวยเซ็กซี่มาคอยต้อนรับเอาอกเอาใจบุรุษเพศที่เข้ามาหาความสำราญ เป็นต้น

แต่เชื่อว่าคงไม่มีใครคาดคิดแน่นอนว่าสถานที่เกี่ยวข้องกับงานด้านกฎหมาย หรือกระบวนการยุติธรรมอย่าง “ศาลยุติธรรม” เดี๋ยวนี้มีพนักงานต้อนรับประจำศาลเช่นเดียวกัน ไม่ยอมให้น้อยหน้าหน่วยงานอื่น ๆ ถือว่าเป็นมิติใหม่ของหน่วยงานหลักในกระบวนการยุติธรรมเลยก็คงไม่ผิดนัก

พนักงานต้อนรับประจำศาล เป็นนโยบายหลักจากไอเดียไม่ธรรมดาของ นายวิรัช ลิ้มวิชัย ประธานศาลฎีกา คนปัจจุบัน

วัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสการบริการต่าง ๆ ให้พี่น้องประชาชนที่มาติดต่อราชการที่ศาลได้รับความสะดวกรวดเร็วมากที่สุด ตลอดจนได้รับความเป็นธรรม ประหยัดรายจ่ายและมุ่งเน้นการบริการอย่างทั่วถึง

นอกจากนี้ ผู้พิพากษา ก็ต้องเป็นที่พึ่งของสังคมในความเป็นกลาง และความถูกต้องยุติธรรมเช่นเดียวกัน

ทั้งนี้ระบบศาลยุติธรรม ได้กำหนดให้การบริการประชาชนไว้ในยุทธศาสตร์ที่ 5 ของแผนยุทธศาตร์ศาลยุติธรรม พ.ศ. 2549-พ.ศ. 2552 โดยกำหนดตัวชี้วัดของผลงานไว้ว่า ประชาชนผู้รับบริการต้องมีความพึงพอใจต่อการให้บริการของศาลยุติธรรมไม่ต่ำกว่าร้อยละ 80 ภายในปี พ.ศ. 2552 เพื่อ ให้สอดคล้องกับนโยบายของท่านประธานศาลฎีกา

ในการนี้ นายพินิจ สุเสารัจ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม ในฐานะแม่บ้านใหญ่ได้ตระหนักถึงบุคคลที่จะมาทำหน้าที่พนักงานต้อนรับประจำศาลยุติธรรมควรมีบุคลิกภาพที่ดี มีความน่าเชื่อถือ เลื่อมใสศรัทธา รวมทั้งต้องมีความรู้ ความชำนาญเป็นที่ยอมรับของผู้ที่มาติดต่อสื่อสาร ไม่ว่าจะเป็นประชาชนกลุ่มเป้าหมายทั้งภายในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงาน

เบื้องต้นได้สั่งการให้ นายประสงค์ มหาลี้ตระกูล โฆษกสำนักงานศาลยุติธรรม เดินหน้าจัดโครงการ “รอยยิ้มจากใจมอบให้ประชาชน” และการจัดกิจกรรมอบรมพนัก งานต้อนรับประจำศาลยุติธรรมขึ้น เนื่องจากบุคลากรเหล่านี้ถือเป็นหน้าตาสำหรับผู้ที่มาติดต่องานราชการที่ศาล จึงต้องมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเรียนรู้ ฝึกฝนทักษะ และพัฒนาบุคลิกภาพเพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดี ใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส ความประทับใจ ตลอดจนมาตรฐานการทำงานให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน

เริ่มจากการฝึกอบรมให้กับผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นข้าราชการระดับสูง ซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญงานศาลจำนวน 17 คน กับหลักสูตร วิทยากรอบรมพนักงานต้อนรับประจำศาลยุติธรรม เพื่อสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน สามารถนำทักษะ และความรู้ที่ได้รับไปเผยแพร่แก่ผู้อำนวยการประจำศาล หัวหน้าส่วนและข้าราชการศาลที่จะต้องปฏิบัติหน้าที่พนักงานต้อนรับประจำศาลตัวจริงตามศาลต่าง ๆ ทั่วประเทศ ศาลละ 2 คน รวมทั้งสิ้น 500 คน จำนวน 20 ครั้ง ในหัวข้อ “จิตใจให้บริการ (Service Mind) และการเสริมสร้างบุคลิกภาพพนักงานต้อนรับประจำศาลยุติธรรม” เพื่อเรียนรู้ ฝึกฝน ขนบธรรมเนียม มารยาทในสังคม ทักษะการสื่อสาร การวางท่าที อิริยาบถ การแต่งกาย เพื่อสร้างความมั่นใจ และความพร้อมที่จะเป็นพนักงานต้อนรับ และการบริการด้านงานศาล

ที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนเป็นนโยบาย และจุดมุ่งหมายของสำนักงานศาลยุติธรรม ที่ต้องการให้มีระบบการบริการประชาชนที่เป็นเลิศ เพื่อให้ประชาชนได้รับความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง เป็นธรรม และชัดเจน เกี่ยวกับกระบวนการต่าง ๆ ในการติดต่อราชการศาล

โดยขณะนี้หากใครมีโอกาสไปที่ศาล อาจได้เห็นพนักงานต้อนรับประจำศาลทั้ง หญิง-ชาย ในเสื้อสูทสีฟ้า ยืนคอยให้การต้อนรับด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ท่าทางกระตือรือร้น และมีมนุษยสัมพันธ์ยอดเยี่ยมจะคอยบริการ ตอบคำซักถาม และให้คำแนะนำกับประชาชนที่มาติดต่อตามศาลทุกแห่งทั่วประเทศ ภายใต้สโลแกน “บริการด้วยรอยยิ้ม จากใจศาลยุติธรรม”

วันนี้หากพี่น้องประชาชนหรือใครที่มีคดีความหรือมีธุระติดต่อกับศาลสถิตยุติธรรม เชื่อว่านับจากนี้คงจะสามารถมาศาลด้วยความสบายใจไร้กังวล.

อรรถชัย ปรีเปรมใจ-ภาณุพงศ์ ส่องสว่าง