วันเสาร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

สดร.ชวนชมสุริยุปราคาเต็มดวง 22 ก.ค.นี้

สดร.ชวนชมสุริยุปราคาเต็มดวง 22 ก.ค.นี้

วันศุกร์ ที่ 03 กรกฎาคม 2552 เวลา 17:13 น

  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (3 ก.ค.) ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รศ.บุญรักษา สุนทรธรรม ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน) (สดร.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปิดเผยว่า ปีนี้เป็นปีที่มีความสำคัญทางดาราศาสตร์หลายอย่าง นอกจากสหพันธ์ดาราศาสตร์สากลจะประกาศให้เป็นปีดาราศาสตร์สากลแล้ว ยังมีเหตุการณ์สำคัญทางดาราศาสตร์เกิดขึ้น คือ ปรากฏการณ์สุริยุปราคา โดยปี 2552 นี้ เกิด 2 ครั้ง คือ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.2552 และครั้งที่ 2 จะเกิดในวันที่ 22 ก.ค.2552 เวลาประมาณ 07.00-09.19 น. ซึ่งเป็นสุริยุปราคาแบบเต็มดวง โดยมีแนวคราสตามเส้นทางที่พาดผ่านประเทศอินเดีย จีน ญี่ปุ่น และมหาสมุทรแปซิฟิคใต้ ส่วนสุริยุปราคาบางส่วนเห็นได้เป็นบริเวณแนวกว้าง ตามเส้นทางที่เงามัวของดวงจันทร์พาดผ่าน คือ เอเชียตะวันออกทั้งหมด อินโดนีเซีย และมหาสมุทรตอนใต้ โดยสุริยุปราคาเต็มดวงครั้งนี้ กินเวลานานที่สุดในศตวรรษที่ 21 คือ 6 นาที 39 วินาที

รศ.บุญรักษา กล่าวว่า เพื่อให้เกิดความตระหนักและความตื่นตัวทางดาราศาสตร์แก่นักเรียน นักศึกษา รวมทั้งประชาชน ให้สนใจกิจกรรมทางดาราศาสตร์มากขึ้น และเพื่อเป็นการกระจายโอกาสในการบริการวิชาการอย่างทั่วถึง สดร.จึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับสถาบันอุดมศึกษาในภูมิภาคต่าง ๆ จัดกิจกรรม ‘สุริยุปราคาเหนือฟ้าเมืองไทย 22 ก.ค.2552’ เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา ตลอดจนประชาชนทั่วไป ร่วมสังเกตปรากฏการณ์นี้พร้อม ๆ กัน

“ภาคกลาง สดร.ไปตั้งกล้องโทรทรรศน์ที่โรงเรียนเทพศิรินทร์ เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยจะเปิดให้นักเรียนเข้าร่วมกิจกรรม นอกจากนี้ ยังมีที่ศูนย์วิทยาศาสตร์เพื่อการศึกษา ส่วนภาคเหนือ ที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย และมหาวิทยาลัยนเรศวร ภาคตะวันออก โดยจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ไปตั้งกล้องที่ระยอง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี และมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี ภาคใต้ ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา และมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต” รศ.บุญรักษา กล่าวว่า

ด้าน ดร.ศรัณย์ โปษยะจินดา รองผู้อำนวยการ สดร. กล่าวว่า ประเทศไทยจะเป็นสุริยุปราคาบางส่วนและสามารถเห็นได้ทุกภาคในเวลาแตกต่างกัน โดยที่กรุงเทพฯ ดวงจันทร์จะเริ่มบดบังดวงอาทิตย์ เวลาประมาณ 07.06 น. และสิ้นสุดเหตุการณ์ เวลา 09.08 น. ซึ่งจะเกิดนานที่สุดในภาคเหนือ ประมาณ 2 ชั่วโมง 12 นาที ที่จังหวัดเชียงราย ดวงอาทิตย์จะถูกดวงจันทร์บดบังมากที่สุด ร้อยละ 69 ของพื้นที่ดวงอาทิตย์

“สำหรับการติดตามสุริยุปราคาบางส่วนในไทยนั้น เนื่องจากดวงอาทิตย์มีความสว่างมาก ไม่สามารถดูด้วยตาเปล่าได้ ต้องระวังและใช้อุปกรณ์ที่มีความปลอดภัยสูง เช่น แว่นตาดูดวงอาทิตย์ที่ สดร. และ อพวช. ได้ผลิตออกมา การใช้กล้องรูเข็มฉายภาพลงบนฉากรับภาพก็มีความปลอดภัย เนื่องจากไม่ได้มองดวงอาทิตย์โดยตรง วัสดุที่อาจนำมาใช้เป็นแผ่นกรองแสงได้ เช่น แผ่นซีดีหรือดีวีดี แต่ต้องแน่ใจว่าสารเคลือบไม่หลุดลอก ซึ่งแผ่นซีดีหรือดีวีดีสามารถกรองแสงอินฟราเรดได้ แม้ว่าภาพดวงอาทิตย์อาจไม่คมชัดนัก นอกจากนี้ ยังสามารถใช้กระจกช่างเชื่อมเบอร์ 14 ดูดวงอาทิตย์ได้อย่างปลอดภัยอีกด้วย” ดร.ศรัณย์ กล่าว.

http://www.dailynews.co.th/newstartpage/index.cfm?page=content&contentId=6408&categoryID=316

--
Please visit my blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.tzuchithailand.org
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น