วันอังคารที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2552

ยลเจดีย์สูงสุดในไทย ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ "วัดธรรมมงคลฯ"

ยลเจดีย์สูงสุดในไทย ไหว้พระบรมสารีริกธาตุ “วัดธรรมมงคลฯ” ดูภาพชุดจาก Manager Multimedia
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 7 กรกฎาคม 2552 14:46 น.
       โดย : หนุ่มลูกทุ่ง

พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ เจดีย์ที่สูงที่สุดในประเทศ
       ใครที่เคยผ่านไปผ่านมาในย่านพระโขนง คงจะเคยเห็นเจดีย์รูปทรงสี่เหลี่ยมสีทองตั้งตระหง่านอยู่ท่ามกลางตึกสูง และอาจทำให้เกิดความสงสัยขึ้นมาว่า เจดีย์องค์นั้นเป็นเจดีย์ของวัดอะไร และภายในเจดีย์นั้นมีสิ่งที่น่าสนใจอะไรบ้าง
       
       ฉันเองก็เป็นคนหนึ่งที่เคยสงสัยเช่นกัน แต่มาวันนี้ได้รับคำตอบแล้ว เมื่อได้เดินทางมาที่ “วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนท์วิหาร” และได้มีโอกาสขึ้นไปสำรวจบนเจดีย์องค์นี้มาแล้วเช่นกัน จึงอยากนำมาเล่าสู่กันฟังในวันนี้

ศาลาพระหยกเมื่อมองจากด้านบน เห็นทิวทัศน์ในย่านพระโขนง
       วัดธรรมมงคลฯนี้แต่เดิมเป็นป่าสะแกมาก่อน แต่เมื่อพระเทพเจติยาจารย์ (หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร ) เจ้าอาวาสวัดได้ธุดงค์ผ่านมาและใช้เป็นที่พักในระหว่างเดินทางเข้ากรุงเทพฯ นายเถา-นางบุญมา อยู่ประเทศ เจ้าของที่ดินมีจิตศรัทธาจึงถวายที่ให้ จากนั้นจึงได้สร้างเป็นวัดขึ้นเมื่อ พ.ศ.2506

พระบรมสารีริกธาตุประดิษฐานอยู่ชั้นบนสุดของเจดีย์
       จุดเด่นของวัดแห่งนี้ที่ทำให้หลายคนสังเกตเห็นนั้นก็คือเจดีย์องค์สูงใหญ่ หรือ “พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์” ซึ่งถือเป็นเจดีย์ที่สูงสุดในประเทศไทยเลยทีเดียว โดยเหตุของการก่อสร้างนั้นก็เริ่มจากการตั้งสัจจยาธิษฐานของหลวงพ่อวิริยังค์ต่อหน้าพระบรมสารีริกธาตุ ณ วัดโคตะมะวิหาร จังหวัดจิตตกอง ประเทศบังกาลาเทศว่า หากได้รับพระบรมสารีริกธาตุครบ 5 องค์ จะสร้างพระมหาเจดีย์ให้ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยเพื่อประดิษฐานพระพระบรมสารีริกธาตุนั้น ซึ่งเจตนาเดิมทางบังกาลาเทศจะมอบให้เพียง 1 องค์เท่านั้น แต่แล้วก็กลับตกลงยินยอมมอบให้ 5 องค์ตามประสงค์ หลวงพ่อจึงกลับมาสร้างพระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ฯ ตามที่ได้ตั้งใจไว้ โดยใช้เวลา 9 ปีด้วยกันในการสร้างจนสำเร็จ
       
       รูปทรงขององค์เจดีย์นั้นเป็นสี่เหลี่ยม จำลองแบบมาจากพุทธคยา ยอดฉัตรทำด้วยทองคำแท้ประดับเพชร ภายในแบ่งเป็น 14 ชั้นด้วยกัน ในแต่ละชั้นจะมีอะไรบ้างนั้น ขอเชิญไปชมพร้อมฉันเลยดีกว่า

หลวงพ่อองค์ดำ
       บริเวณชั้น 1 หรือฐานของเจดีย์ มีป้ายติดไว้ว่า “นครธรรม” เพราะบริเวณนี้เป็นที่ตั้งของ “สถาบันพลังจิตตานุภาพ” หรือโรงเรียนครูสอนสมาธิ โดยหลวงพ่อวิริยังค์นั้นเคยเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์มั่น ภูริทัตโต ได้เรียนรู้วิชาจากปรมาจารย์ด้านสมาธิ ท่านจึงต้องการสอนวิชาสมาธิ และสร้างสถานที่ศึกษาและปฏิบัติธรรมให้แก่คนทั่วไป จึงได้เกิดเป็นสถาบันฯแห่งนี้ขึ้น
       
       เราเริ่มต้นเดินขึ้นไปชมกันที่ชั้น 2 ซึ่งเป็นชั้นของ “วิหารหลวงพ่อองค์ดำ” หรือ “พระพุทธรูป ภ.ป.ร.” พระพุทธรูปที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จเจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี มาเททองหล่อเพื่อเป็นพระประธานในวิหารของพระมหาเจดีย์ พร้อมกับทรงวางศิลาฤกษ์พระวิริยะมงคลมหาเจดีย์ศรีรัตนโกสินทร์ด้วยในคราวเดียวกัน

พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย แกะสลักจากหยกทั้งองค์
       และบริเวณระเบียงรอบวิหารนี้ก็ยังมีพระพุทธรูปสำคัญอีกหลายองค์ เช่น พระอัฎฐาฬส พระพุทธรูปยืนปางประทานพร สูง 18 ศอก ที่สร้างขึ้นพร้อมกับหลวงพ่อพระองค์ดำ พระอโศกพญา (หลวงพ่อพันปี) พระพุทธรูปแกะสลักด้วยหินทรายอายุกว่าพันสองร้อยปี อัญเชิญมาจากบังคลาเทศ รูปหล่อพระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต พระสุโขทัยและพระเชียงแสน เป็นต้น

ภายในพิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นฯ เขตพระโขนง
       ไหว้พระกันเรียบร้อยแล้ว ทีนี้ขึ้นไปเยี่ยมชม “พิพิธภัณฑ์ท้องถิ่นกรุงเทพมหานคร เขตพระโขนง” กันบนชั้น 3 กันต่อ พิพิธภัณฑ์แห่งนี้แม้มีขนาดเล็ก แต่ก็ทำให้เราทราบถึงประวัติความเป็นมาของเขตพระโขนงได้เป็นอย่างดี โดยแต่เดิมนั้นพระโขนงเป็นอำเภอหนึ่งขึ้นอยู่กับนครเขื่อนขันธ์ หรือเมืองพระประแดงมาก่อน แต่ปัจจุบันนี้เป็นส่วนหนึ่งของกรุงเทพมหานคร อีกทั้งยังบอกเล่าถึงเรื่องราววิถีชีวิตชาวบ้านสมัยก่อนที่ยังมีพื้นที่ทำการเกษตร มีการไปมาหาสู่กันโดยทางเรือ และมีข้าวของเครื่องใช้เก่าๆในอดีตจัดแสดงไว้ให้ชมกัน ทั้งเครื่องมือเกษตร รวมทั้งข้าวของจากสงครามโลกครั้งที่สองเมื่อญี่ปุ่นมาตั้งค่ายอยู่ที่พระโขนงแห่งนี้ด้วย และยังมีการแนะนำสถานที่ท่องเที่ยว เช่น วัดวาอารามต่างๆในเขตพระโขนง และเรื่องราวของแม่นาคพระโขนงก็ถูกพูดถึงในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้ด้วยเช่นกัน

พระพุทธรูปที่จัดแสดงในพิพิธภัณฑ์ของวัด
       จากนั้นบนชั้น 4-8 นั้นจะเป็นห้องเรียนปริยัติธรรม ฆราวาสอย่างฉันไม่อยากไปรบกวนการเรียนการสอน จึงขอขึ้นลิฟท์ข้ามไปรวดเดียวถึงชั้น 9 ซึ่งจัดเป็นพิพิธภัณฑ์ของวัด เป็นที่รวบรวมข้าวของประเภทพระพุทธรูปเก่าแก่ของวัด เช่น พระพุทธรูปเชียงแสนหลวง 5 องค์ที่มีความเก่าแก่นับร้อยปี และเครื่องปั้นดินเผาต่างๆ ที่ขุดค้นพบ ตำราใบลาน รวมไปถึงใบโพธิ์จากต้นพระศรีมหาโพธิ์ พุทธคยา ประเทศอินเดีย ที่หลวงพ่อวิริยังค์ได้เก็บมาเป็นที่ระลึกเมื่อท่านได้ไปปฏิบัติธรรมที่นั่นอีกด้วย

สถานที่นั่งสมาธิกรรมฐานบนชั้น 12
       เดินชมข้าวของต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ของวัดตั้งแต่ชั้น 9 จนถึงชั้น 11 แล้ว เดินขึ้นบันไดถัดมายังชั้น 12 ซึ่งเป็นชั้นที่ไว้ใช้นั่งสมาธิกรรมฐาน มีรูปวาดอยู่บนผนังแสดงให้เห็นถึงปฏิจจสมุปบาท หรือหลักธรรมที่แสดงให้เห็นถึงกระบวนการเกิด การดำเนินไป และการดับไปของชีวิต รวมถึงการเกิด การดับแห่งทุกข์ด้วย อีกทั้งยังมีคำอธิบายเกี่ยวกับอริยสัจ 4 ความจริงอันประเสริฐ 4 ประการ ให้เราได้ทำความเข้าใจกัน
       
       และแล้วเราก็ขึ้นมาถึงชั้นบนสุดขององค์เจดีย์บนชั้น 14 ซึ่งเป็นยอดสุดของเจดีย์และมีความสำคัญที่สุด เพราะเป็นที่ประดิษฐานพระเกศา พระอุรังคธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุที่ได้อัญเชิญมาจากประเทศบังคลาเทศ ควรขึ้นมากราบไหว้ให้ได้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง

ถ้ำวิปัสสนา
       เมื่อฉันได้ไหว้บูชาพระบรมสารีริกธาตุและชมวิวทิวทัศน์จากมุมสูงของกรุงเทพฯในย่านพระโขนงจากชั้นบนสุดของเจดีย์เรียบร้อยแล้วก็กลับลงมาด้านล่าง แต่ยังไม่บอกลาวัดธรรมมงคล เพราะของดียังไม่หมดเพียงเท่านี้ ที่วัดแห่งนี้ยังมีพระหยกเขียวที่ใหญ่ที่สุดในโลกประดิษฐานอยู่ใน “ศาลาพระหยก” ศาลาหลังคาแบบโดมแก้ว เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ มีความสูง 2 เมตรด้วยกัน มีนามซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวว่า “พระพุทธมงคลธรรมศรีไทย” เป็นพระพุทธรูปที่สลักจากหยกชิ้นใหญ่ที่ถูกพบใต้ทะเลสาบน้ำแข็งในประเทศแคนาดา มีความงดงามมากเลยทีเดียว และบริเวณด้านหลังพระพุทธรูปองค์นี้ก็ยังมี “พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิมหยก” ประดิษฐานอยู่ในลักษณะทรงยืน มีความงดงามเช่นเดียวกัน

พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์กวนอิมหยก
       วัดธรรมมงคลนี้มีบรรยากาศสงบเงียบเหมาะแก่การมาปฏิบัติธรรม โดยทางด้านหลังวัดยังได้จัดทำเป็น “ถ้ำวิปัสสนา” จำลองบรรยากาศการปฎิบัติธรรมในป่าในถ้ำ มีต้นไม้ล้อมรอบบริเวณที่ให้คนเข้าไปนั่งสมาธิ และฟังธรรมในถ้ำได้อย่างสงบ
       
       สำหรับผู้ที่มีความสับสนวุ่นวายใจ อยากได้ที่สงบๆสำหรับทบทวนความคิดตัวเอง หรืออยากได้สถานที่ปฏิบัติธรรมดีๆสักแห่ง เชื่อว่าที่ “วัดธรรมมงคลฯ” นี้คงจะเป็นแหล่งธรรมะที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง
       
       * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *
       
       วัดธรรมมงคล เถาบุญญนนทวิหาร ตั้งอยู่ที่ 132 ถนนสุขุมวิท 101 ซอยปุณณวิถี 20 แขวงบางจาก เขตพระโขนง กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดโทร.0-2332-4145
http://www.manager.co.th/Travel/ViewNews.aspx?NewsID=9520000076667

--
  ขอเชิญอ่าน blog.Thank you so much.
http://www.sanamluang.bloggang.com
http://tham-manamai.blogspot.com
http://lifeanddeath2mcu.blogspot.com
http://www.thaiyogainstitute.com
http://www.thaihof.org
http://www.parent-youth.net
http://www.tzuchithailand.org
http://www.presscouncil.or.th
http://thainetizen.org
http://www.ictforall.org
http://ilaw.or.th
http://elibrary.nfe.go.th
http://www.pdc.go.th
http://www.biz652.com
http://dbd-52.hi5.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น