วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4100
คนขายเลือด งามหัวใจใต้ธงแดง
คอลัมน์ ART AND CULTURE
โดย Cobori
![]() |
กับเรื่องราวของครอบครัวคนเล็กคนน้อยครอบครัวหนึ่งที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีนในยุคคอมมิวนิสต์แบบจีน ที่นำโดยเหมา เจ๋อ ตุง ในปี 1949 เป็นต้นมาจนถึงยุคปฏิวัติวัฒนธรรมจีนในช่วง 1966-1976
หนังเรื่องนี้ นำแสดงโดยสาวสวยสองพันปี...กงลี่ อดีตคู่ชีวิตของ ผู้กำกับคนดังคนนี้ ส่วนดารานำชาย แสดงโดย เก ยู ซึ่งบทนี้ผลักดันให้เขาได้รับรางวัลนักแสดงชายยอดเยี่ยมจากเวทีหนังเมืองคานส์ เมื่อทั้งสองมาแสดงเป็นคู่สามีภรรยาที่ผ่านความทุกข์-ความสุขภายใต้ธงแดงของ คอมมิวนิสต์ร่วมกัน ทำให้เราสนุกรสไปกับการดูหนังเรื่องนี้เป็นอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าหนังที่ดี ส่วนหนึ่งต้องยกความดีความชอบให้กับบทที่ดี ภาพยนตร์เรื่อง To Live สร้างจากวรรณกรรมบทประพันธ์ของ หยู หัว หมอฟันผู้ผันตัวเองมาเป็นนักเขียน จนในปัจจุบันนี้เขามีชื่อเสียงระดับนานาชาติ นิยายของเขาส่วนใหญ่จะมีเนื้อหาตีแผ่สังคมจีนในยุคปฏิวัติวัฒนธรรม
วรรณกรรมคุณภาพของหยู หัว ตอนนี้แปลเป็นไทย 3 เรื่องแล้ว นั่นคือคนตายยาก (To Live) คนขายเลือด (Chronicle of a Blood Merchant) และพี่กับน้อง (Brothers) โดยสำนักพิมพ์นานมีบุ๊คส์
2 เรื่องแรก ได้รับเลือกเป็น 1 ใน 10 หนังสือที่ทรงอิทธิพลที่สุดของจีนในทศวรรษ 1990
ขอหยิบยกเรื่อง "คนขายเลือด" มาเล่าสู่กันฟังดีกว่า
เคยได้ยินแต่เรื่องในจีนมีคนขายอวัยวะ เพื่อมาเจือจุนชีวิตในยามทุกข์ยาก เหมือนอย่างที่ปรากฏในหนังจีนเรื่อง Feast of Villains ที่ตัวเอกต้องไปขายไตเพื่อช่วยเหลือบิดาที่กำลังป่วย
ส่วนเรื่องคนขายเลือดนั้น ในนิยายเล่มนี้บอกว่ามีอยู่จริง โดยเฉพาะผู้คนตามชนบทของประเทศจีน ที่มักจะขายเลือดให้กับโรงพยาบาลในเมือง
การขายเลือดแต่ละครั้ง คนขายจะต้องขายเลือดไปประมาณครั้งละ 2 ชาม
"...คนที่แข็งแรงต้องไปขายเลือดกันทั้งนั้น ขายเลือดทีหนึ่งได้เงินตั้ง 35 หยวน ทำงานในนาต้องทำตั้งครึ่งปีถึงจะหาเงินได้ขนาดนั้น เลือดในตัวเราก็เหมือนน้ำในบ่อ ถ้าไม่ตัก น้ำก็ไม่เพิ่มขึ้น ถ้าตักทุกวัน น้ำก็ยังเท่าเดิม" คติของชาวนาในชนบทจีนว่าเช่นนั้น
สี่ ซาน กวาน หนุ่มชาวเมือง ซึ่งเป็นคนงานในโรงไหม ได้ลองไปขายเลือดดู
เกือบทุกครั้งหลังจากที่ขายเลือดแล้ว จะต้องสั่งตับหมูผัดและเหล้าเหลืองเพื่อบำรุงเลือด ซึ่งกลายเป็นเสน่ห์ของเรื่องนี้ไปเลย
"...เงินที่ได้มาวันนี้เป็นเงินจากเลือด เงินจากเลือดนี่จะเอาไปใช้ตามใจชอบไม่ได้ ต้องใช้ในเรื่องจำเป็นจริงๆ"
เงินที่ได้จากการขายเลือดครั้งแรกของเขาจึงใช้ไปกับการแต่งงาน
แล้วต่อมา เมื่อไล่เรียงดูแล้ว การขายเลือดของเขาแต่ละครั้งล้วนแล้วแต่มีเหตุจำเป็นทั้งสิ้น อย่างเช่น ต้องชดใช้เงินให้กับลูกชายเพื่อนบ้านที่ถูกลูกชายตนเองทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส เก็บเป็นค่าอาหารในปีที่ขาดแคลนอาหารในช่วงฤดูแล้ง และที่เป็นไคลแมกซ์ของเรื่องก็คือการช่วยเหลือลูกชายที่ป่วยหนัก เนื่องจากถูกเกณฑ์ไปเป็นแรงงานที่ชนบทในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม ทำให้เขาต้องขายเลือดถึง 3-4 ครั้ง ในรอบไม่กี่วัน เพื่อหาเงินมาช่วยชีวิตลูกชาย
เมื่ออ่านจบแล้ว จากที่หวาดหวั่นว่าเนื้อหาจะหนักเกินไป กลายเป็นว่าแอบน้ำตาซึมให้กับความดีงามของมนุษย์ในเรื่องที่แม้ว่าจะตกอยู่ภายใต้สังคมที่แร้นแค้นสักเพียงใด
แต่ตราบใดที่มีรัก ที่นั่นย่อมมีความหวังเกิดขึ้นเสมอ :D (หน้าพิเศษ D-Life)
หน้า 9
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02dlf06270452&day=2009-04-27§ionid=0225
Rediscover Hotmail®: Get quick friend updates right in your inbox. Check it out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น