เปิดโฉม "แบทแมน" "พิจิต เชื้อแก้ว" ฮีโร่ยุทธการ "ยึดรถก๊าซ" ขวัญใจชาวแฟลตดินแดง
โดย ศิวพร อ่องศรี
 พิจิต เชื้อแก้ว (ภาพเล็ก) |
กลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ "นปช." หรือกลุ่มคนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้ปิดถนนดินแดงบริเวณสามเหลี่ยมดินแดง ห้ามรถทุกชนิดวิ่งผ่าน ซึ่งถนนดังกล่าวอยู่หน้าแฟลตดินแดงพอดี
จากนั้นกลุ่มคนเสื้อแดงนำรถบรรทุกก๊าซแอลพีจีขนาด 8 ตันมาจอดขวางกลางถนน ที่หน้าโรงเรียนพิบูลย์ประชาสรรค์ใกล้กับแฟลต 2 และ 3 ของแฟลตดินแดง และยังมีอีกคันหนึ่งจอดอยู่บริเวณสะพานลอยข้ามแยกโบสถ์แม่พระฟาติมา
รถบรรทุกก๊าซสร้างความหวาดผวาให้กับชุมชนแฟลตดินแดงเป็นอย่างมาก เพราะถ้าหากเกิดระเบิดขึ้นมา ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการทั้งหลายบอกไว้เลยว่า อนุภาคของแรงระเบิดสามารถทำลายล้างได้ภายในรัศมี 5 กิโลเมตร
เท่ากับว่าชาวชุมชนแฟลตดินแดงนับพันครอบครัวจะไร้ที่อยู่อาศัย หรืออาจก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมทำให้สูญเสียชีวิตนับพันนับหมื่นราย
ตั้งแต่เช้าจรดบ่ายหลายครั้งที่กลุ่ม นปช.ได้ข่มขู่จะจุดระเบิดรถบรรทุกก๊าซ ทำให้มีการอพยพชาวบ้านที่อาศัยอยู่บนแฟลตดินแดงกันหลายรอบ จนชาวบ้านเริ่มเครียดและหงุดหงิด แสดงความไม่พอใจกลุ่ม นปช.และมีการตะโกนโห่ไล่ขึ้น สถานการณ์ตึงเครียดมากยิ่งขึ้นเมื่อมีชาวบ้านบุกเข้าไปประชิดกลุ่มเสื้อแดงและขับไล่ด้วยการขว้างปาสิ่งของ ขวดน้ำ ขวดเบียร์ เศษไม้ เข้าใส่
ชั่วโมงแห่งความตึงเครียดทำท่าจะปะทุเป็นเรื่องใหญ่ ...แต่ทันใดนั้นเสียงร้องดังก้องถนน "แบทแมน..แมาแล้วววว...ววววว.."
สีหน้าแววตาและบรรยากาศของผู้คนในบริเวณนั้น ทั้งชาวแฟลตดินแดง ทหาร และแม้แต่ นปช.เอง ที่เห็นแบทแมนก็เปลี่ยนจากเคร่งเครียดและเสียงด่าทอ เป็นรอยยิ้มและเสียงหัวเราะแทน
บุรุษสวมชุด "แบทแมน" อย่างในหนัง ชูมือโบกทักทายบนรถขนน้ำแล้วกระโดดลงมาวิ่งไปวิ่งมาเรียกความสนใจจากคนรอบข้างพร้อมกับถือกล้องวิดีโอในมือ
แล้วในเวลาไม่กี่นาทีที่แบทแมนผู้นี้ปรากฏตัวได้กลายเป็นโอกาสทองทำให้เจ้าหน้าที่สามารถหลบลอดเข้าไปขับรถก๊าซออกมาจากที่เกิดเหตุ
ช่วยให้ชาวแฟลตดินแดงรอดพ้นจากการระเบิดของรถก๊าซ (หากว่าการต่อรองกันนั้นไม่สำเร็จ)
หลังจากเหตุการณ์ระทึกขวัญได้รับการกอบกู้จากแบทแมนแล้ว เสียงถามไถ่ว่าเขาคนนั้นเป็นใครก็ดังไล่ตามมาติดๆ
 แบทแมน ฮีโร่ขวัญใจชาวแฟลตดินแดง |
เพื่อคลายความสงสัยของผู้คน จึงได้ติดตามสืบเสาะหาตัวของบุรุษแบทแมนผู้นั้น ซึ่งในที่สุดได้รับทราบข้อมูลว่าเขาชื่อ "พิจิต เชื้อแก้ว" มีชื่อเล่นว่า
"แตงโม" ปัจจุบันอายุ 35 ปี
จึงมีการนัดหมายพูดคุยในเวลาต่อมาที่แฟลตดินแดง อาคาร 1 ซึ่งเป็นบ้านของเขานั่นเอง
พิจิต หรือแตงโม เล่าว่าดั้งเดิมเป็นคนจังหวัดอุบลราชธานี เวลานี้มีอาชีพเป็นพนักงานขาย "ทอล์คกิ้ง ดิก" (Talking Dict) อยู่ที่ร้านบีทูเอส สาขาห้างเซ็นทรัล สาขาบางนา แต่งงานมีครอบครัวแล้ว ภรรยาชื่อ ธนพร พาเจริญ มีบุตรชาย 2 คน โดยคนโตชื่อ "ธีรังกูร เชื้อแก้ว" หรือน้องโอเว่น วัย 8 ขวบ ส่วนคนเล็กชื่อ "ธีรเดช เชื้อแก้ว" หรือน้องเติ้ล วัย 4 ขวบ
พิจิตเล่าว่า เพิ่งย้ายมาอยู่แฟลตดินแดง 1 ได้ประมาณ 5 เดือน โดยอยู่กับภรรยาสองคน ส่วนลูกชายทั้งสองอยู่กับยายที่ จ.บุรีรัมย์
ถึงแม้พิจิตจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับชาวแฟลตดินแดงและกู้สถานการณ์รุนแรงจากรถก๊าซ แต่อีกมุมหนึ่งของชีวิตเขานั้นมีเรื่องที่ยังหนักใจ ด้วยว่า "น้องเติ้ล" ลูกชายคนเล็กเป็นโรคหัวใจมาตั้งแต่เกิด กำลังรอผ่าตัดในต้นเดือนมิถุนายน 2552 นี้ ที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
"เรื่องของลูกเราก็คงทำหน้าที่ให้ดีที่สุดถึงที่สุด อยากให้เขาหายเพราะเขาเป็นเด็กน่ารักมาก.." ผู้เป็นพ่อกล่าวถึงลูกชายในช่วงหนึ่งของการสนทนา
สำหรับเรื่องราวของ "แบทแมน" ที่เกิดขึ้นในวันที่ 13 เมษายนที่ผ่านมา ชายวัยสามสิบห้าคนนี้ เล่าว่า เป็นคนชอบและสนใจชุดของบรรดาฮีโร่ต่างๆ ในหนัง ไม่ว่าชุดแบทแมน, สไปเดอร์แมน แม้กระทั่งชุด พระเจ้าตาก
"ทั้งหมดนี้ผมได้แรงบันดาลใจจากอาจารย์ปริญญา สุขชิต หรือครูเป็ด ซึ่งเป็นผู้นำเชียร์กีฬาระดับชาติคนแรกของไทย ผมเห็นครูเป็ดทำแบบนั้นผมเริ่มเอาบ้าง แรกๆ ไปประกวดแต่งชุดแฟนซีงานแข่งวิ่งเพื่อสุขภาพ จากนั้นก็ไปตามงานเชียร์ที่สนามฟุตบอลต่างๆ ผมใฝ่ฝันมานานแล้วที่จะมีชุดใส่เป็นซุปเปอร์ฮีโร่เหมือนครูเป็ด พอเห็นเขาเชียร์ก็อยากเป็นเหมือนเขาบ้าง เลยคิดแบบฉบับของตัวเอง จนกระทั่งมีชุดแรกก็เป็นชุดแบทแมนนี่แหละ ถ้าจำไม่ผิดตอนปี 2543 สั่งตัดในราคา 2,800 บาท แต่ตัวที่ใส่ปัจจุบันนี้เป็นชุดที่ 3 แล้ว" พิจิตกล่าวยิ้มๆ
พิจิตบอกว่า ก่อนหน้าที่จะมีชุดแบทแมน เขามีชุดบางระจันก่อน เขียนยันต์เต็มตัว ถือขวานไม้ ออกไปเชียร์กีฬา และหากรวบรวมชุดทั้งหมดเขามีชุด
 พูนผล สังข์สูงเนิน |
ซุปเปอร์ฮีโร่ 4 ชุด ได้แก่ ชุดแบทแมน ซุปเปอร์แมน สไปเดอร์แมน และชุดพระเจ้าตาก แต่ละชุดลงทุนตัดเอง เฉลี่ยราคาชุดละ 2,800-3,000 บาท
แล้วมาถึงคำถามวันเกิดเหตุ ทำไมจึงแต่งเป็นแบทแมน?
"วันนั้นที่แต่งชุดแบทแมนลงไป เพราะพี่วรรณ-อุทัยวรรณ มูลพรหมศร ประธานชมรมพลเมืองเด็กดี ที่แฟลต 1 เป็นคนบอกให้แต่งลงไป เพราะสถานการณ์ตอนนั้นเครียดกันมาก ทั้งชาวบ้าน ทหาร และกลุ่มเสื้อแดง คือคุยกันได้แต่ตกลงกันไม่ได้สักที ทหารก็จะเข้าสลายม็อบเสื้อแดงอย่างเดียว ชาวบ้านก็กลัวรถก๊าซจะระเบิด คราวนี้ชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นฝ่ายไหนก็เกิดการโต้เถียงกันขึ้น กระทั่งใกล้ค่ำสถานการณ์ตึงเครียดมาก พี่วรรณก็บอกว่าให้ไปเปลี่ยนชุดเป็นซุปเปอร์แมนลงไป ผมบอกว่าซุปเปอร์แมนไม่ได้นะ พี่ดูสิมันมีทั้งสีน้ำเงินทั้งสีแดงในชุดเดียวกัน ผมลงไปชุดนั้นผมก็น่วมสิ ผมเลยจัดการเรื่องชุดเอง"
"ก็เลือกดูสีของชุดที่ไม่กระทบกับใคร ผมเลยเลือกชุดแบทแมน ก็ใส่ชุดแบทแมนออกไปที่ระเบียงก่อน พอทหารเห็นเขาก็ยิ้ม คือเห็นฟันทหารมาก่อนเลย ปฏิกิริยาที่เขายิ้ม ผมเห็นเขาซุบซิบกัน 20-30 คน หันมามองที่ระเบียงพร้อมกันหมด ผมก็เลยถือกล้องวิดีโอลงไป ทั้งชาวบ้านและทหารหลายคนตะโกนบอก "แบทแมนมาแล้วๆๆ.."
"ตอนนั้นไม่ได้คิดเรื่องกลัวรถก๊าซจะระเบิดหรืออะไรทั้งสิ้น แม้ว่าเมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ รถก๊าซ ผมได้กลิ่นเลย ได้กลิ่นก๊าซรั่วตลอดเวลา อากาศก็ร้อน แต่ชาวบ้านเขาเห็นเราก็ยิ้ม ทหารก็ยิ้ม ผมก็วิ่งเข้าไปทำให้ความสนใจมาอยู่ที่ตัวผม จังหวะที่รถน้ำไปฉีดรถบรรทุกก๊าซ ชาวบ้านกับกลุ่มเสื้อแดงก็ลุยกัน โดยชาวบ้านเยอะกว่าได้ไล่คนเสื้อแดงออกไปจากรถบรรทุกก๊าซ ต่อมาเจ้าหน้าที่สยามแก๊สก็ไปถอยรถออกมาได้อย่างปลอดภัย"
และหลังจากม็อบสลาย ชาวบ้านต่างเข้าไปมะรุมมะตุ้มขอถ่ายรูปคู่กับแบทแมนอย่างมีความสุข
พิจิตบอกว่า ไม่เฉพาะแต่งานนี้เท่านั้น ปกติแล้วเขาเคยแต่งชุดซุปเปอร์แมนไปให้ความบันเทิงแก่เด็กๆ ตามโรงเรียนต่างๆ เมื่อมีเวลาว่างจากงานประจำ "ผมจะแต่งชุดพวกนี้ไปตามโรงเรียนต่างๆ เพราะอยากเห็นเด็กๆ สนุก แต่ก็มีทั้งคนที่เห็นด้วยกับเราและคนที่ไม่เห็นด้วย บางครั้งเจอแรงๆ โดนด่าเลยก็มี- -ไอ้แบทแมน ไอ้บ้า ผมก็งง แต่ก็ไม่รู้จะไปว่าอะไรเขาต้องทำใจ ใครจะว่าเราบ้าต้องปล่อยวางไปบ้าง" พิจิตบอกทิ้งท้ายว่า ไม่ว่าสถานการณ์บ้านเมืองจะเป็นแบบไหน หรือรัฐบาลควรจะเป็นเช่นไร สิ่งที่ได้จากการประท้วงนั้น ไม่มีใครได้อะไรเลยแม้แต่คนเดียว มีแต่ประเทศชาติเท่านั้นที่เสียหาย
"ผมอยากให้ประเทศชาติสงบ อยากให้เลิกแบ่งฝ่าย แบ่งสี และหันหน้าเข้ามาร่วมกันแก้ไขปัญหาบ้านเมือง สิ่งไหนที่ขัดแย้งควรจะถอยกันคนละก้าว คุยกันได้ไหม เหมือนกับการเมืองสมัยเก่าที่เขาต่อสู้กันในกติกา ต่อสู้ในสภา ก็ว่ากันไป ไม่ใช่ไม่พอใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแล้วยกพวกออกมาเล่นนอกสภา ทำความเดือดร้อนให้ประชาชน แต่ก่อนการเมืองเราเขาทะเลาะกันในสภาเสร็จแล้วก็จบ ถ้าแก้ปัญหาไม่ได้ก็ยุบสภา แล้วเลือกตั้งกันใหม่ ซึ่งทำให้มันเดินต่อไปได้และไม่เดือดร้อนชาวบ้าน แต่นี่ไม่ใช่แล้วจะเอาชนะกันอย่างเดียว" พิจิตกล่าวด้วยเสียงเซ็งในอารมณ์
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นอาจโชคดีที่สามารถแก้ไขจากรุนแรงให้กลายเป็นเรื่องเบา ผ่อนคลาย ไม่มีอะไรที่เสียหายใหญ่หลวงเป็นโศกนาฏกรรม
แต่ ทว่า..เราจะโชคดีตลอดไปหรือ? เป็นเรื่องที่ทุกคนควรตระหนักร่วมกัน
พูนผล สังข์สูงเนิน
ประธานคณะกรรมการชุมชนเคหะแฟลตดินแดง 1-20
"วันที่กลุ่มเสื้อแดงนำเอารถก๊าซออกมาจอดขวางถนนมีชาวบ้านออกมามุงดูถึง 200 คน ก็ไปร้องเรียนกับผู้อำนวยการเขต และ ส.ส.ในพื้นที่ให้ช่วยเข้ามาเจรจาหน่อย ให้ย้ายรถก๊าซออกไป เพราะดูแล้วว่าถ้าเกิดระเบิดขึ้น อันตรายมากต้องมีคนเจ็บคนตาย เพราะรัศมีในการระเบิดทำลายประมาณ 5 กิโลเมตร ชาวบ้านกลัวกันมาก ทางชุมชนได้ประสานงานไปตามที่ต่างๆ และเตรียมขนย้ายอพยพคนออกจากพื้นที่ ว่าจะไปอยู่ที่สนามกีฬาไทย-ญี่ปุ่น ดินแดง ผมคิดว่าแรงระเบิดก็น่าจะไปถึง ชาวชุมชนก็ค่อยๆ มารวมตัวกัน จนผู้อำนวยการเขตเข้าไปเจรจากับม็อบเสื้อแดงแล้วก็ยังไม่เป็นผล หลังๆ ชาวบ้านจึงใช้คำรุนแรงด่าทอให้ย้ายรถแก๊สออกไป แต่ก็ยังไม่ยอมเลยมีการปะทะกันระหว่างชาวบ้านและกลุ่มม็อบ ไล่ตีกัน จนกระทั่งในช่วงเย็นที่มีแบทแมนออกมาเบี่ยงเบนความสนใจ ความเครียดในตอนนั้นจึงคลายลง ทุกคนหันไปสนใจแบทแมน เจ้าหน้าที่เลยเข้าไปขับรถก๊าซออกมาได้"
"แบทแมน สมควรได้รับเสียงปรบมือ ชาวชุมชนขอขอบคุณแบทแมนมา ณ ที่นี้ด้วย"
และผมอยากวิงวอนขอให้คนไทยรักกัน เหมือนกับเพลงชาติไทยของเราที่ร้องกันอยู่ทุกวันนี้ คือ "รัก-สามัคคี"
หน้า 20
http://www.matichon.co.th/matichon/view_news.php?newsid=01pra01270452§ionid=0131&day=2009-04-27
Windows Live™ SkyDrive™: Get 25 GB of free online storage. Check it out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น