วันอาทิตย์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2552

ศิลปะความเป็นคน ตอนบันไดเลื่อน ลิฟต์ และรถไฟฟ้า

 
วันที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2552 ปีที่ 32 ฉบับที่ 4100

ศิลปะความเป็นคน ตอนบันไดเลื่อน ลิฟต์ และรถไฟฟ้า


คอลัมน์ Delicious GROOVE

โดย อัษฎา อาทรไผท


หลังจากที่ผมได้เคยอุตริเขียนเกี่ยวกับเรื่องมารยาทสังคมมาแล้ว เมื่อไม่นานมานี้มีผู้อ่านหลายท่านส่งข่าวมาว่าอยากให้เขียนแนวนี้อีก ผมเลยถือโอกาสช่วงเทศกาลสงกรานต์นี้นำเสนอเรื่องทั่วไปที่ใครๆ ก็พบเจอแต่ไม่ค่อยสนใจ เพราะชีวิตขาดศิลปะความเป็นคนมานานจนทนไหว คราวนี้ขอนำเสนอสามหัวข้อด้วยกัน ดังนี้

บันไดเลื่อน แลดูคล้ายศิลเปรอะมากกว่าศิลปะ

เคยเจอไหม เวลาที่คุณกำลังรีบเร่ง เวลามีจำกัด ต้องไปให้ถึงธุระอย่างรวดเร็ว กึ่งเดินกึ่งวิ่งหลบหลีกผู้คนมาได้ตลอด แต่มาตายตอนขึ้นบันไดเลื่อน เพราะไม่สามารถเคลื่อนที่ไปไหนได้ ในเมื่อฝูงชนยืนกันเป็นแพบ้าง สลับฟันปลาบ้าง เกลื่อนอยู่เต็มพื้นที่ของบันไดเลื่อน สุดท้ายก็ต้องยืนรอทั้งๆ ที่รีบ เวลาผมมองดูคนขึ้นลงบันไดเลื่อนตามห้างบ้านเรา ร้อยทั้งร้อยมักแลดูคล้ายภาพ abstract ยืนกันเลอะเทอะ ชิดขวาบ้าง ชิดซ้ายบ้าง ยืนคู่บ้าง ยืนคี่บ้าง สรุปแล้วไม่มีระเบียบไปเสียหมด หากเป็นงานอาร์ต อาจพอมีคนเห็นว่างดงาม แต่นี่คือโลกมนุษย์ หาใช่ภาพพิศไม่ ทำให้มองยังไงก็ไม่ชวนชม มีแต่จะ เบื่อหน่ายและหดหู่กับสิ่งที่ได้เห็น

ผมรู้สึกชื่นชมทุกครั้งที่ได้ไปเยือนประเทศที่เจริญแล้ว ผู้คนเขามีศิลปะในการใช้บันไดเลื่อน ใครไม่รีบจะยืนชิดอยู่ด้านหนึ่งและเว้นที่ไว้ให้ผู้ที่รีบสามารถวิ่งขึ้นบันไดเลื่อนไปได้ บางเมืองชิดซ้าย บางเมืองชิดขวา ตามแต่กติกาของแต่ละที่ ซึ่งเป็นเรื่องที่คนประเทศเขาทำกันจนเข้าเส้น ไม่ต้องไปจ้ำจี้จ้ำไช ก็ปฏิบัติกันอย่างอัตโนมัติ บ้านเราน่าเศร้า ไม่เคยได้ยินว่ามีที่ไหนปลูกฝังเด็กเรื่องการขึ้นบันไดเลื่อน ทั้งๆ ที่สอนไม่ยาก ปฏิบัติก็แสนง่าย ปล่อยให้เด็กไทยเติบโตขึ้นแบบไร้ศิลปะในการใช้บันไดเลื่อน เฉกเช่นผู้ใหญ่ทั้งหลายที่ดูเหมือนจะไม่สนใจ จนดูไร้อารยธรรมในสายตาชาวโลก

มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมเคยได้ยินเพื่อนบ่นว่า ไปฮ่องกงมา ยืนบนบันไดเลื่อนอยู่กับแฟน จู่ๆ มีคนฮ่องกงรีบวิ่งขึ้นมาอย่างเร็ว ชนเขาอย่างแรง แถมมองด้วยสายตาเหยียดหยามเหมือนเขาทำอะไรผิด ผมบอกไปว่า ใช่แล้วเพื่อน แม้นายไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่นายกำลังฝ่าฝืนมารยาทสังคม ที่ใครมาพบก็คงดูถูกเอาง่ายๆ ที่โดนอย่างนั้นมันก็สมควรแล้ว เพื่อนผมกลับไม่เห็นด้วย โมโหไปเลย เหตุเพราะมันไม่มีศิลปะความเป็นคน

ความงดงามของการใช้ลิฟต์

ตั้งแต่เคยโดยสารลิฟต์มาร่วม 30 ปี ศิลปะการใช้ลิฟต์ของคนไทยเราพัฒนามามาก จากสมัยก่อนไม่มีใครสนใคร ตอนนี้พอจะมีการถาม "ไปชั้นไหนครับ/ค่ะ" บ้าง แต่ภาพรวมยังถือว่ามีปัญหาอยู่ดี คุณเคยพยายามจะออกจากลิฟต์ที่แน่นเหมือนปลากระป๋อง แต่เกือบออกไม่ได้เพราะคนที่อยู่หน้าประตูยืนออกันแบบไม่ใส่ใจ ต้องแหวกว่ายออกไปด้วยความลำบากไหม หากเคย ลองทำแบบนี้ครับ เมื่อขึ้นลิฟต์หากพื้นที่ข้างในยังว่างอยู่ พยายามยืนอยู่หน้าๆ ที่ให้อยู่หน้าๆ ไม่ใช่จะให้ไปเอาเปรียบใครนะครับ แต่ผมจะให้คุณนี่แหละ เป็นผู้มี ศิลปะในการขึ้นลิฟต์เพียงคนเดียวในลิฟต์อันโหดร้าย หลังจากกดชั้นที่ต้องการแล้ว คอยถามผู้คนที่เอื้อมไม่ถึงว่าจะไปชั้นไหน หากคนข้างในจะออก แต่คุณยังต้องไปต่อ ถ้าคุณบังเขา ขอให้ก้าวออกไปข้างนอกสักนิด มือกดปุ่มเปิดไว้ พอเขาออกได้ ก็กลับเข้ามาใหม่ คอยดูว่ามีใครจะขึ้นอีกไหม หากไม่มีก็กดปิดประตู หากทำได้แบบนี้ คุณคือสุดยอดแห่งคนใช้ลิฟต์ เท่าที่ประสบมา มีหลายครั้งที่ผู้ใช้ลิฟต์ไม่ใส่ใจคนที่กำลังจะขึ้นลิฟต์ ปล่อยให้ประตูปิดไปต่อหน้าต่อตา มีหลายหนที่คนเพิ่งพยายามแหวกคนออกมาจากลิฟต์ โดนประตูลิฟต์หนีบเพราะไม่มีใครกดเปิดให้ นี่คือผลพวงของความไร้ซึ่งศิลปะความเป็นคน

รถไฟฟ้าและความน่าเกลียดของมนุษย์

น่าแปลกมาก เพราะเรื่องขึ้นรถขึ้นรา เขามีสอนกันในโรงเรียนว่า ให้สละที่นั่งแก่เด็ก สตรี และคนชรา แต่ผมเห็นมีคนปฏิบัตตามกันน้อยเหลือเกิน จากการใช้บริการ BTS มาอย่างโชกโชน พบว่าไม่ค่อยมีการสละที่นั่งให้ผู้ที่ควรจะได้ที่นั่ง สำหรับสตรี ผมเข้าใจว่าสมัยใหม่คงจะมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน บรรดาผู้ชายเลยไม่ค่อยลุกให้ ส่วนผู้หญิงเองก็พอกัน อันนี้ เจอกับตัวเอง ผมเคยลุกให้สาวอ้วนคนหนึ่ง แต่สาวเจ้าบอกมาว่าไม่เป็นไร ทำให้หน้าแตกไปทันที เพราะทำความดีไม่ขึ้น แต่ที่เลวร้ายที่สุดคือเมื่อภรรยาของผมมีครรภ์ได้ 8 เดือน ท้องป่องมองเห็นได้ด้วยตาเปล่าแล้ว วันหนึ่งเธอจำเป็นต้องใช้รถไฟฟ้า เชื่อไหม ไม่มีชายหน้าไหนลุกให้นั่งเลย โหนตั้งแต่ต้นสายจนถึงที่หมาย สรุปคือบางทีคนหวังดีลุกให้ก็ไม่มีใครนั่ง บางทีคนที่ควรจะได้นั่งก็ไม่มีใครลุกให้ มันช่างแปลกประหลาดเหลือเกิน แต่ที่แย่กว่าคือตอนจะเข้าจะออกในช่วงเร่งด่วน แม้เขาจะเขียนไว้ที่พื้นว่า ให้คนข้างในออกก่อน แต่ก็ยังมีพวกคนเถื่อนในคราบคนเมือง ที่ชอบชิงพุ่งพรวดสวนกระแส คนที่พยายามจะออกจากรถไฟฟ้าให้เห็นได้อยู่ร่ำไป ไม่อยากเอ่ยถึงเมืองนอกบ่อย แต่ก็ต้องเอ่ยว่า ที่ประเทศที่เจริญแล้ว เขาผลัดกันเข้าผลัดกันออกกันอย่างมีระเบียบ มีศิลปะกว่า เราเยอะ

แต่จะให้พี่น้องชาวไทยเราเจ๋งเท่าประเทศที่เจริญแล้วได้อย่างไร ในเมื่อสังคมไทยเรา ไม่ว่าจะสีอะไร เอะอะก็ยึดโน่น ยึดนี่ ปิดโน่น ปิดนี่ ผิดทั้งกฎหมาย ทั้งกติกา มารยาทมากมายก่ายกอง หนักกว่าที่ผมสาธยายมาข้างต้นนัก เมื่อไหร่หนา คนไทยเราจะมีศิลปะความเป็นคนกับเขาสักที :D (หน้าพิเศษ D-Life)

หน้า 10
http://www.matichon.co.th/prachachat/prachachat_detail.php?s_tag=02dlf07270452&day=2009-04-27&sectionid=0225


Windows Live™ SkyDrive™: Get 25 GB of free online storage. Check it out.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น