ชีวิตและความหวังของอาเจมส์… เด็กไร้สัญชาติ ลุ่มน้ำเงา โดย : พัชยานี ศรีนวล เมื่อ : 17/04/2009 11:50 AM | ||
"ผมไม่ได้เกิดมามีชีวิตที่ดีพร้อมเหมือนกับคนอื่นๆ กำพร้าพ่อและแม่ตั้งแต่เล็กๆ ที่สำคัญคือผมเป็นเด็กไร้สัญชาติ หลายคนมักเรียกผมว่าลูกพม่า" คำพูดที่ออกมาจากความรู้สึกในใจพร้อมกับสายตาที่หม่นเศร้าของอาเจมส์ เด็กชายไร้สัญชาติลุ่มน้ำเงา สิบหกปีที่ต้องกำพร้าพ่อและแม่ อาเจมส์ เป็นลูกชายของนายเตงก่วย นางหน่อเชอร์ ปัจจุบันอายุ 21 ปี เกิดที่บ้านท่าเรือ อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน มีพี่ชายต่างมารดา 1 คนชื่อ นายพิษณุพงษ์ สุขสวัสดิ์ อายุ 31 ปี แต่งงานแล้วมีลูกชาย 2 คน อาศัยอยู่กับครอบครัวที่ จ.ลำพูน พี่ชายได้รับสัญชาติไทยตามแม่ซึ่งเป็นคนไทย พ่อมีอาชีพเป็นหมอชายแดนเดินทางไปรักษาคนป่วยที่ไม่มีเงิน และคนที่ไม่สามารถเดินทางมารักษาที่โรงพยาบาลในตัวอำเภอสบเมย แม้การเดินทางไปแต่ละที่จะไกลและลำบากมากแค่ไหนก็ตาม ส่วนแม่จะติดตามและคอยช่วยเหลือพ่อทุกอย่าง คนดั้งเดิมที่อยู่บ้านท่าเรือ และคนที่พ่อของอาเจมส์เคยรักษา ที่ยังมีชีวิตอยู่และเหลือไม่กี่คน รู้จักหมอเตงก่วย เป็นอย่างดี โดยเฉพาะนายหม่องละ (เสียชีวิตแล้ว) พ่อของมึดา (อดีตเด็กไร้สัญชาติบ้านท่าเรือ ที่ได้รับสัญชาติไทยตาม พ.ร.บ.สัญชาติ ฉบับที่ 4 พ.ศ. 2551 มาตรา 23) เป็นเพื่อนที่สนิทกัน มึดาเองก็เป็นเพื่อนที่เติบโตในบ้านท่าเรือมาด้วยกัน อาเจมส์ได้ยินเรื่องราวชีวิตของพ่อและแม่จากคนที่รู้จัก ทำให้มีเขามีความภาคภูมิใจในตัวพ่อมาก ด้วยเหตุนี้จึงได้เขียนนามสกุลของตัวเองว่า "แพทย์ชายแดน"
พี่ชายอาเจมส์กล่าวด้วยความมั่นใจในตัวน้องชายว่า "เห็นอาเจมส์จบการศึกษาอีกระดับหนึ่งแล้วรู้สึกขนลุก อยากให้เขาเรียนต่อในระดับปริญญาตรี แต่ตอนนี้ภาระของครอบครัวผมเยอะมาก ไม่สามารถส่งอาเจมส์เรียนต่อได้อีก อยากให้น้องชายทำงานเพื่อหาทุนเรียนต่อเอง มาถึงตอนนี้แล้วผมคิดว่าอาเจมส์ต้องทำได้ เวลาที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเขาเป็นผู้ใหญ่ขึ้นสามารถพิสูจน์ตัวเองและเรียนจบในระดับ ปวส. แล้วด้วย" อาเจมส์ ไม่เคยถูกโดดเดี่ยว เขามีพี่ชายที่แสนดีและคอยเอาใจใส่ ส่งเสียให้ได้เรียนจนจบการศึกษา ทั้ง ๆ ที่พี่ชายมีภาระที่ต้องรับผิดชอบของครอบครัวมากมาย และเขามีพี่ๆ ในศูนย์ฯ ให้คำแนะนำที่ดีและช่วยเหลือ แม้ในบางเวลาจะมีความรู้สึกเศร้า เหงา ร้องให้ คิดถึงบ้านเกิดที่ท่าเรือ และคิดถึงพ่อกับแม่บ้างก็ตาม แต่เขาเก็บความรู้สึกเหล่านั้นซ่อนลึกไว้ในหัวใจ เพราะชีวิตและความหวังของอาเจมส์ เด็กไร้สัญชาติลุ่มน้ำเงา ยังคงต้องก้าวเดินบนเส้นทางที่ทอดยาวไกล การเรียนต่อในระดับปริญญาตรี และการมีสัญชาติไทยตามทะเบียนราษฎรที่ถูกต้องตามกฎหมาย เป็นสิ่งที่ อาเจมส์ยังใฝ่ฝันเสมอ สิ่งที่เขาวางแผนและอยากทำตอนนี้คือ กลับคืนสู่บ้านเกิดและเข้าไปช่วยทำงานในศูนย์พัฒนาเครือข่ายเด็กและชุมชน อ.สบเมย จ.แม่ฮ่องสอน ที่เขาเคยได้รับการดูแล ให้ที่พัก และให้การศึกษา พร้อมกับการต่อสู้และพิสูจน์สถานะของตัวเอง ซึ่งตอนนี้อาเจมส์ มีบัตรผู้ไม่มีสถานะทางทะเบียน บัตรหมายเลข 0510689000516 ออกที่ อ.ป่าซาง จ.ลำพูน ได้รับบัตรเมื่อปี พ.ศ. 2550 "ผมเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ คือ เป็นคนดีของสังคม เป็นคนดีของชาติ สิ่งที่ผมเคยคิดไว้ในอดีตหลังจากที่ถูกดูหมิ่น เหยียดหยาม ถูกตัดสิทธิหลายอย่างว่า เราควรอยู่ในที่ๆ เราอยู่ ไม่มีสิทธิที่จะออกความเห็นใด ๆ ทั้งสิ้น แม้สิ่งเหล่านั้นจะขัดกับความรูสึกก็ตาม ตอนนี้มันไม่ใช่แล้ว รัฐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และคนในสังคมให้โอกาสเด็กไร้สัญชาติมากขึ้น ผมต้องลุกขึ้นสู้เหมือนกับมึดา ที่คอยบอกเสมอว่าท้อได้แต่อย่าถอยเป็นอันขาด และคนที่สำคัญอีกคนหนึ่งที่ผมไม่เคยลืมคือพี่หลวง สันติพงษ์ มูลฟอง พี่ที่ให้คำปรึกษา ให้คำแนะนำที่ดีมาโดยตลอดแม้ผมจะไม่ได้อยู่ที่ศูนย์ฯ และยังให้โอกาสผมได้กลับมาช่วยทำงาน ผมจะทำหน้าที่ของตนเองให้ดีที่สุด" อาเจมส์กล่าวทิ้งท้าย ด้วยสายตาที่มุ่งมั่น ซึ่งไม่เหมือนกับสายตาครั้งแรกที่หมองหม่นเศร้า การรอคอยที่จะได้ของขวัญล้ำค่านั่นคือ การเป็นประชากรของประเทศไทยโดยสมบูรณ์ คงไม่ไกลเกินเอื้อมถึง อาเจมส์จะต้องสานฝันและต่อสู้ให้ได้สัญชาติไทยตามขั้นตอนของกฎหมายที่ถูกต้องและเป็นคนดีของสังคมดังที่บอกไว้ ก็หวังว่าชีวิตและความหวังของอาเจมส์ แพทย์ชายแดน เด็กไร้สัญชาติ ลุ่มน้ำเงา ที่ใครๆ มักเรียกเขาว่าลูกพม่า จะเป็นจริง |
http://www.thaingo.org/writer/view.php?id=1166 |
Windows Live™: Life without walls. Check it out.
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น