วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

ปฏิกิริยาจาก ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ ต่อ 50 นักวิชาการเสนอปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ

ปฏิกิริยาจาก ‘สนธิ ลิ้มทองกุล’ ต่อ 50 นักวิชาการเสนอปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ



เมื่อเวลา 6.00 – 7.00 น. ของวันที่ 6 มี.ค. นายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งเอเอสทีวีและแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ดำเนินรายการ “Good Morning Thailand” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี [คลิปรายการ] โดยเนื้อหาช่วงหนึ่งของการดำเนินรายการ นายสนธิพยายามเชื่อมโยงว่า 50 นักวิชาการที่ลงชื่อเสนอให้มีการปฏิรูปกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เป็นแนวร่วมเดียวกับ รศ.ใจ อึ๊งภากรณ์ อดีตนักวิชาการจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และใช้ถ้อยคำปรามาส 50 นักวิชาการผู้เสนอความเห็นตลอดรายการ





อัดประเทศไทยมีปัญหากับอาจารย์จริงๆ หาอาจารย์รักชาติบ้านเมืองยาก

โดยนายสนธิกล่าวว่า “เรื่องที่อยากจะพูดมากๆ คือ เรื่องการล่าชื่อ 50 นักวิชาการของฝรั่ง แก้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแนวร่วม อันนี้เป็นแนวร่วมของ นายใจ อึ๊งภากรณ์ นายจักรภพ เพ็ญแข กลุ่มเสื้อแดง ที่ล้มสถาบันฯ และก็ นายแฮรี่ นิโคลายส์ ซึ่งเป็นชาวออสเตรเลีย ที่ถูกจำคุก คดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ 3 ปี และได้รับพระราชทานอภัยโทษนั้น กลายเป็นเครื่องมือของกลุ่มพวกนี้ กลุ่มพวกนี้ตอนนี้ใช้หัวหอกของอาจารย์คนหนึ่ง อาจารย์อีกแหละ พี่น้อง ประเทศไทยนี่มีปัญหากับอาจารย์จริงๆ อาจารย์ที่มีเหตุมีผล หรืออาจารย์ที่รักชาติ รักบ้าน รักเมืองนี่ เดี๋ยวนี้หายาก มักจะชอบใช้คำว่า เพื่อสิทธิเสรีภาพในทางความคิด นะครับ อาจารย์คนนี้ ชื่อ ธงชัย วินิจกุล



วันนี้จะคุยกันให้ฟัง ว่า นายธงชัย วินิจกุล นั้น คือใคร มาจากไหน และทำไมเกิดกระบวนการอย่างนี้ วิวาทะของ นายธงชัย นั้น มีช่องว่างและจุดอ่อนเยอะแยะไปหมด แต่ว่าสังคมไทยไม่ค่อยรับรู้เรื่องนี้ เพราะสื่อมวลชนไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญอะไร นอกจากสื่อ เอเอสทีวี ซึ่งเป็นทีวีของประชาชน” นายสนธิอ้าง





เผยชื่นชอบ ‘โนม โชมส์กี’ แต่ฝรั่งฉลาดทุกเรื่องแต่โง่เรื่องนี้

โดยในช่วงท้ายรายการ เขาได้กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ความจริงเมื่อคืนนี้ (5 มี.ค. 52) คุณคำนูณ สิทธิสมาน แล้วก็คุณสุวัตร อภัยภักดิ์ พูดแล้วในรายการคนในข่าว คือ เรื่องการล่าชื่อ 50 นักวิชาการฝรั่งมาแก้กฎหมายหมิ่น เรื่องนี้มีเบื้องหน้าเบื้องหลังน่าสนใจมาก นักวิชาการฝรั่งจะมองภาพรวม มีคนหนึ่งชื่อ นายโนม โชมส์กี ซึ่งผมก็ชอบอ่านเรื่องราวเขา นายโนม โชมส์กี เป็นพวกชอบทางด้านสังคมนิยม ชอบทางด้านรัฐสวัสดิการ ต่อต้านสงคราม ผมเห็นด้วยกับ นายโนม โชมส์กี หลายๆ อย่าง เพราะว่าประเด็นที่ นายโนม โชมส์กี พูดมานั้นเป็นประเด็นทางสากล ที่ถึงแม้ผมจะเป็นคนไทยนั้น คุณจะเป็นคนอเมริกัน คุณจะเป็นอาจารย์อังกฤษ จะเป็นท่านลอร์ดที่ไหนก็ตาม ถ้าเป็นประเด็นทางสากล อย่างเช่น เห็นด้วยไหมที่จะให้สิ่งแวดล้อมมันดี เห็นด้วยครับ เห็นด้วยไหมที่จะยุติสงคราม เห็นด้วยครับ เห็นด้วยไหมที่จะไม่ทรมานผู้ต้องหา โอ๊ยเห็นด้วยครับ เห็นด้วยไหมที่จะไม่ใช้ความรุนแรง โอ๊ยเห็นด้วย



นี่คือ ประเด็นทางสากล เมื่อเป็นประเด็นทางสากลแล้ว กลุ่มของ นายใจ อึ๊งภากรณ์ โดยนำโดย ดร.ธงชัย วินิจกูล ซึ่งเป็นอาจารย์สอนภาควิชาประวัติศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัยวิสคอนซิน ถ้าผมจำไม่ผิด นายธงชัย ก็เอาประเด็นว่ากฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพนั้นเป็นอันตรายต่อเสรีภาพของคน เขาชูประเด็นตรงที่ว่ากฎหมายอันนี้ เป็นกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม เป็นกฎหมายที่ไม่เป็นธรรมเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าบุคคลมีสิทธิ์ที่จะวิพากษ์วิจารณ์ได้ ฝรั่งมันก็ฉลาดทุกเรื่อง แต่มันเสือกโง่เรื่องนี้ มันก็เลยบอกเห็นด้วย มันก็เลยเซ็นชื่อกันมาใหญ่เลย รวมทั้งอาจารย์มหาวิทยาลัยในเมืองไทยอีกไม่น้อยที่โง่แล้วก็เซ็นชื่อไป





อัดนักวิชาการไทยมี 2 ประเภท หนึ่งรู้ผิวเผิน สองไม่ยอมรับขนบธรรมเนียมจารีตประเพณี

ผมถึงบอกพี่น้องวันนี้การศึกษาเมืองไทยมีปัญหา เรามีอาจารย์อยู่ 2 ประเภท อาจารย์ประเภทหนึ่ง ก็คือ สอนเด็ก สอนเด็กแบบผิดๆ ผิดอย่างไร คือ สอนเด็กให้เดินผิดแนว เน้นต้องเรียน MBA นะ ต้องเรียนการตลาดนะ ต้องอย่างนู้นอย่างนี้นะ เศรษฐกิจต้องลดดอกเบี้ยนะ ต้องเอาเงินทุ่มเข้าไปนะเพื่อให้เกิดการใช้จ่าย เพื่อเศรษฐกิจมันจะเป็นอย่างไรต่อไป แต่ไม่เคยเล่าที่มาที่ไปว่าใครเป็นคนแบกภาระ ประชาชน อาจารย์พวกนี้ก็คือว่ารู้แค่ผิวเผิน ไม่สามารถจะอธิบายป่าทั้งป่าให้เด็กเข้าใจ



อีกประเภทหนึ่ง คือ ประเภทอย่าง ธงชัย วินิจกูล หรืออีกหลายคนที่อยู่คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ หรืออีกหลายคนที่ยังอยู่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ ประเภทนี้เป็นประเภทที่เอากระบวนทัศน์ที่ถูกต้องตามหลักสากล แต่ว่าไม่ยอมรับขนบธรรมเนียมจารีตประเพณีในบ้านเรา แล้วก็บอกว่านี่หนูๆ นักเรียน ไอ้กฎหมายหมิ่นประมาทนี่มันไปจำกัดเสรีภาพนะครับ ทำไมคนเราไม่มีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์หรอ คนเราต้องมีสิทธิ์วิพากษ์วิจารณ์สิ เอาเห็นไหม แต่เขาเรียกร้องมา 3 ข้อ พ่อแม่พี่น้อง ยุติการพยายามสร้างมาตรการกดดันปราบปรามที่เข้มงวดยิ่งกว่านี้ทั้งต่อปัจเจก บุคคล เว็บไซต์ และก็การแสดงความคิดเห็นอย่างสันติ เอ๊ะ สมัยที่คุณทักษิณมีอำนาจเนี้ย คุณทักษิณทั้งปราบปราม ทั้งถอดรายการเมืองไทยรายสัปดาห์ ทั้งสั่งให้ อ.เจิมศักดิ์ เลิกจัดรายการวิทยุ คุณธงชัย คุณไปซุกอยู่ที่ไหน คุณไปซุกใต้กระโปรงอยู่ที่ไหน ทำไมคุณไม่ออกมาพูด ใจ อึ๊งภากรณ์ ทำไมไม่ออกมาพูด ไม่มีใครออกมาพูดซักคนเลย อาจารย์รัฐศาสตร์ที่ปากกล้านักที่จุฬาฯเนี้ย ทำไมไม่ออกมาพูด อาจารย์ชื่อ สุธาชัย ที่ไปประกัน ดา ตอร์ปิโด ที่เป็นอาจารย์คณะอักษรศาสตร์ จุฬาฯ ทำไมคุณไม่ออกมาพูด คณบดีคณะนิติศาสตร์ ที่มหาลัยเชียงใหม่ ทำไมคุณไม่ออกมาพูด นายสมเกียรติ ตั้งนะโม คณบดีคณะศิลปกรรม หรือคณะอาร์ต ฝ่ายอาร์ตของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อธิการบดีของมหาวิทยาลัยเที่ยงคืน ทำไมคุณไม่ออกมาพูด นิธิ เอียวศรีวงศ์ ทำไมคุณไม่ออกมาพูด คุณนี่ละพวกคนสองมาตรฐานนะ ทักษิณเคยปราบปราม มาสมัยนี้ สมัยก่อนทักษิณปราบปรามอย่างไร ผมเพียงแต่ยกตัวอย่างให้ดู และบอกว่า ไม่ควรก็ถอดผมแล้ว วันนี้เว็บไซต์ที่เข้ามาจาบจ้วง วิพากษ์วิจารณ์ถึงขั้นด่าว่าสถาบันกษัตริย์ แล้วคุณไม่ให้เขาปิดได้อย่างไร





ย้อนถามธงชัยถ้ามีคนยื่นด่าพ่อแม่กลางตลาดจะว่าอย่างไร อัดอาจารย์ฝรั่งลงชื่อเพราะจงใจโง่

พวกคุณมีพ่อแม่ทุกคนนี่ ถ้าใครเขามายืนด่าพ่อคุณแม่คุณ กลางตลาดนี่ คุณจะว่าอย่างไร ธงชัย วินิจกูล คุณจะว่าอย่างไร แล้วเขามาด่าพ่อของแผ่นดิน แล้วคุณจะให้เขานั่งเฉยๆ หรอ คุณอย่า 2 มาตรฐานซิ คุณแน่ใจคุณเอาพ่อคุณ แม่คุณมาขึ้นเวที แล้วผมจะให้ประชาชนทั้งประเทศด่า แล้วคุณจะรู้สึกอย่างไร นี่ขนาดปัจเจกบุคคลนะยังไม่นับกษัตริย์ สถานภาพกษัตริย์เนี้ยเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทย ซึ่งฝรั่งไม่เข้าใจ โง่ ถึงจะฉลาดหลายเรื่องแต่บางเรื่องนี่ หนึ่ง จงใจโง่ หรือ สอง ไม่ได้สนใจก็เลยพลอยโง่ไปด้วย



ด้วยเหตุอันนี้ข้อเสนอข้อเรียกร้องของคุณเนี้ย เป็นข้อเรียกร้องที่ไม่ใช่เพียงแต่ไร้เหตุผลอย่างเดียวนะ สะท้อนมากเลยว่าคนอย่างคุณมาสอนหนังสือได้อย่างไร คุณไม่สามารถแยกแยะความหลากหลายของสังคม ว่าไม่เหมือนกัน คุณใช้มาตรฐานพวกคุณอันเดียวกันในโลกนี้ แล้วมาประยุกต์กับทุกๆ สังคม เพียงแค่นี้คุณก็ขาดคุณสมบัติของการเป็นอาจารย์ที่ดีแล้วนะครับ



ข้อที่สอง พิจารณาข้อเสนอแนะที่เรียกร้องให้ปรับปรุงกฎหมายแก้หมิ่น เพื่อป้องกันไม่ให้กฎหมายฉบับนี้ตกเป็นเครื่องมือในการกลั่นแกล้งคุกคามผู้ อื่น คุณธงชัย คุณรู้หรือเปล่าว่าไอ้กฎหมายฉบับนี้เนี้ย มันไม่ใช่กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ มันเป็นส่วนหนึ่งของกฎหมายอาญาแล้วก็อยู่ในภาคของความมั่นคง ภาคความมั่นคง เพราะว่าความมั่นคงนั้นเขาพิจารณาว่าสถาบันกษัตริย์นั้นเป็นส่วนหนึ่งของ สังคมไทย คุณยังไม่เข้าใจตรงนี้เลยหรือ แล้วกฎหมายหมิ่นนี้คนที่มาเล่นผมคนแรกคือใคร คือ ผู้ใหญ่หรือเทวดาที่คุณแอบสนับสนุน นั่นก็คือ ทักษิณ ชินวัตร เมื่อปี 2548 ฟ้องผม





ท้า ‘ใจ’ เจตนาบริสุทธิ์ต้องไม่หนี

คุณธงชัย คุณนี่ผิดไปหมดทุกเรื่อง พิจารณายกเลิกถอนฟ้องคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ที่กำลังดำเนินคดีอยู่ในขณะนี้ แล้วดำเนินการเพื่อปล่อยตัวผู้ต้องหาถูกตัดสินภายใต้กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เอ๊ะ คุณธงชัย แสดงว่าอะไร แสดงว่าคุณอยากให้ นายใจ ถ้า นายใจ มีเจตนาบริสุทธิ์ นายใจ ต้องไม่ไปไหนสิ ต้องมาชี้แจงให้กับประชาชนทราบ ชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ทราบ ผมโดนตำรวจระบอบคุณเล่นงานผม หาว่าผมไปหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ เหตุผลก็เพราะว่าผมไปชี้ว่า ดา ตอร์ปิโด นั้นพูดจาจาบจ้วงสมเด็จพระนางเจ้าฯ แล้วพูดอย่างนี้ๆ ทำไมตำรวจไม่จัดการ ตำรวจก็เล่นกรณีที่ผมเอาคำพูดดามาพูด ถือว่า ผมผิดมาตรา 112 แล้วทำไมผมไม่หนีละ ผมทำไมถึงต้องอยู่พร้อมที่จะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผม





ยัดข้อหา ‘ธงชัย’ มีเบื้องหน้าเบื้องหลัง

คุณธงชัย ประการแรก คุณต้องยอมรับก่อน ว่า สถาบันกษัตริย์เป็นส่วนหนึ่งของสังคมหรือเปล่า การที่คุณออกมา 3 ข้อนี้ โดยที่คุณมีเบื้องหน้าเบื้องหลัง แสดงว่า ลึกๆ คุณไม่ยอมรับอยู่แล้วว่าควรจะมีกษัตริย์ แต่คุณไม่กล้าพูดตรงๆ ใช่ไหม คุณธงชัย เพราะคุณกลัวว่าคุณจะเข้าข่ายผิดกฎหมายความมั่นคง และคุณก็จะมาเมืองไทยไม่ได้ เสร็จเรียบร้อยแล้วคุณก็จะมาปลุกปั่นเมืองไทย คนในเมืองไทยต่อไปไม่ได้



พวก นิธิ เอียวศรีวงศ์ พวก สมศักดิ์ ตั้งมะโน (น่าจะหมายถึง สมศักดิ์ ตั้งนโม) ผมไม่เอ่ยชื่อ คณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ หรือพวกหลายๆ พวก นายสุธาชัย ยิ้มประเสริฐ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย หรือ อาจารย์วรพล ที่อยู่ธรรมศาสตร์ หรือนายที่ชื่อ พิชิต คนพวกนี้คุณกล้าพูดไหมว่า คุณไม่เชื่อในสถาบันพระมหากษัตริย์ คุณไม่อยากให้เมืองไทยมีสถาบันพระมหากษัตริย์ ลึกๆ คุณเชื่อ แต่คุณไม่กล้าพูดใช่ไหม แต่คุณก็มาตีวัวกระทบคราด



คุณมาดิ้นในส่วนของมาตรา 112 เพื่อที่อะไร เพื่อที่จะทำให้คุณออกมาด่าใครก็ได้ที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ ผู้แทนส่วนพระองค์ก็ได้ หรือมาวิพากษ์วิจารณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือสมเด็จพระนางเจ้าฯ ก็ได้ ด้วยเหตุนี้





บัดซบทางจริยธรรม-บัดซบทางวิชาการ “แล้วเสือกไปพาฝรั่งโง่ๆ เข้ามาเซ็น”

เพราะฉะนั้นแล้วใครก็ตามที่คิดเรื่องนี้ นอกจากจะบัดซบในทางจริยธรรมแล้ว ยังบัดซบในเชิงวิชาการอีก แล้วเสือกไปพาฝรั่งโง่ๆ เข้ามาเซ็น



เอาละพี่น้อง ผมจะให้พี่น้องดู พี่น้องรู้ไหมว่านายฝรั่งที่มันติดตารางไป เป็นฝรั่งชนชาติออสเตรเลียนะครับ ฝรั่งชนชาติออสเตรเลียที่พิมพ์หนังสือออกมาขาย 50 เล่ม แล้วทำเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับสถาบันกษัตริย์แล้วก็โดนจับ แล้วก็โดนศาลพิพากษาจำคุกเนี้ย แล้วจำคุกอยู่ประมาณสักไม่ถึงเดือน ก็ได้รับการประราชทานอภัยโทษนะครับ นายคนนี้ คือ นายนิโคลายส์ นะครับ นายนิโคลายส์ นักเขียน แฮร์รี นิโคลายส์ นะครับ แฮร์รี นิโคลายส์ (หมายถึง แฮรี่ นิโคลีเดส) เขาพูดยังไงรู้ไหมพี่น้อง ระหว่างที่อยู่ในคุก นายแฮร์รี นิโคลายส์ ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์ ซิดนีย์ เฮรัลด์ หนังสือพิมพ์ใหญ่ของ นายรูเพิร์ต เมอร์ด็อก ที่ซิดนีย์ เขาให้สัมภาษณ์อย่างนี้พี่น้องนะครับ เขาพูดบอกใน ซิดนีย์ มอร์นิ่ง เฮรัลด์ (Sydney Morning Herald) นะครับ ได้อ้างคำสัมภาษณ์ของนายแฮร์รีตอนหนึ่งนะครับ ผมอ่านเป็นภาษาอังกฤษให้ฟังก่อนนะครับ



เขาบอกว่า On the King's 81st birthday, I saw fireworks in the distance, some prisoners has tears in their eyes praising a man they regard not just as a king, but the father. I may not be Thai, but I am a son, and I know what it means to love a father. I am applying for a royal pardon. I pray the king learns of my plight so I might enjoy his grace. เอาแปลเป็นภาษาไทย นายแฮร์รี นิโคลายส์ พูดกับหนังสือพิมพ์ฝรั่ง ว่า ในวันเฉลิมพระชนมพรรษาครบรอบ 81 พรรษา ผมได้เห็นพลุในระยะไกล นักโทษบางคนร่ำไห้ออกมา กล่าวสรรเสริญบุคคลซึ่งไม่ได้เป็นเพียงกษัตริย์ของพวกเขา แต่เป็นพ่อด้วย ผมไม่ใช่คนไทย แต่ผมก็เป็นลูก ผมมีความรู้สึกของการรักพ่อของผม ผมจึงดำเนินการขอพระราชทานอภัยโทษ และผมภาวนาว่า พระองค์ท่านจะทรงรับรู้ถึงชะตากรรมของผม และผมจะได้รับความเมตตา นายแฮร์รี ได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (อ่านจดหมายฉบับดังกล่าวได้ที่นี่)



และนายแฮร์รี ก็ตกเป็นเครื่องมือของพวกนักวิชาการบัดซบพวกนี้ พี่น้องครับ นักวิชาการพวกนี้บัดซบ 2 อย่าง บัดซบทางจริยธรรม และก็บัดซบทางวิชาการนะครับ นายสนธิกล่าวในที่สุด



อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบของผู้สื่อข่าว พบว่า นายแฮรี่ นิโคลีเดส ถูกควบคุมตัวเป็นระยะเวลาทั้งสิ้น 193 วัน ไม่ได้ถูกจำคุกเป็นเวลาไม่ถึงเดือนอย่างที่นายสนธิกล่าว



โดยเขาถูกจับกุมในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตั้งแต่วันที่ 31 สิงหาคม 2551 ขณะที่จะเดินทางจากประเทศไทยกลับประเทศออสเตรเลีย ระหว่างที่มีการดำเนินคดี ทางครอบครัวของแฮรี่ได้ยื่นหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษผ่านทางสถานทูตออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2551 หลังจากที่คำร้องขอประกันตัวถูกปฏิเสธไปแล้ว 2 ครั้ง โดยทางการไทยให้เหตุผลว่า เพื่อป้องกันการหลบหนี และก่อเหตุซ้ำ



จนกระทั่งมีคำพิพากษาของศาลตัดสินจำคุกเขาเป็นเวลา 3 ปี ในวันที่ 19 มกราคม 2552 หลังจากนั้น นายสตีเฟน สมิธ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศออสเตรเลียเปิดเผยว่าว่า ได้ส่งหนังสือมายังนายกษิต ภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทยเพื่อขอพระราชทานอภัยโทษให้นายแฮรี่ และต่อมามีการพระราชทานอภัยโทษดังกล่าว รวมระยะเวลาที่นายแฮรี่ถูกควบคุมตัวทั้งสิ้น 173 วัน



อนึ่ง นายศักดิ์ศรี พรหมโยธี อัครราชทูตที่ปรึกษาไทยประจำกรุงแคนเบอร์ร่า ออสเตรเลีย เคยกล่าวว่า กฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพถูกนำมาใช้อยู่ในปัจจุบันเพราะรัฐธรรมนูญไทยได้บัญญัติให้กษัตริย์ไทยอยู่เหนือการเมือง และเพื่อคุ้มครองพระองค์จากการถูกโจมตีส่วนพระองค์ อย่างไรก็ตาม กรณีชาวต่างชาติที่เผชิญข้อหาดังกล่าวมีโอกาส 99 % ที่จะได้รับการอภัยโทษและถูกส่งตัวกลับประเทศ







http://www.prachatai.com/05web/th/home/15852
--------------------------------------------------------------------------------
โดย : ประชาไท วันที่ : 10/3/2552

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น